รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 ปัจจัยที่ต้องจับตา ดิสนีย์, พาสปอร์ตวัคซีน, หุ้นมีมตัวใหม่

เผยแพร่ 04/03/2564 05:13
อัพเดท 04/03/2564 05:19
© Reuters.

โดย Liz Moyer

 

Investing.com - หุ้นติดลบหลังจากการที่หุ้นพลังงานและธนาคารไม่สามารถยับยั้งการตกต่ำของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ได้อีกต่อไป

นักลงทุนเทขายหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Apple Inc (NASDAQ: AAPL) และ Microsoft Corporation (NASDAQ: MSFT) แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะพยายามสร้างความมั่นใจให้กับตลาดอีกครั้งว่าแรงกดดันด้านค่าจ้างจะไม่ทำให้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น

หนังสือสีเบจ ของธนาคารกลาง ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อสังเกตจากธนาคารสำรอง 12 แห่งของเฟดจนถึงวันที่ 22 กุมภาพันธ์พบว่าการเติบโตของเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐฯรวมถึงอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับปานกลาง

รายงานตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่อ่อนแออย่างไม่คาดคิดก็ทำให้เกิดความหวังว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะดำเนินไป

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน โดยเฉพาะจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายใหม่และ ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง จะเผยออกมาในวันพฤหัสบดี ก่อนข้อมูลของรัฐบาลที่เฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับข้อมูลงานที่จะเผยในวันศุกร์

และนี่คือ 3 ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อตลาดในวันพรุ่งนี้:

 

1. ดิสนีย์หั่นร้านค้าปลีกทิ้ง

Walt Disney Company (NYSE: DIS) กล่าวว่าจะลดร้านค้า 60 แห่งในอเมริกาเหนือหรือ 20% ของสาขาทั้งหมด เนื่องจากเน้นไปที่อีคอมเมิร์ซ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ Disney ให้ความสำคัญกับการดำเนินการ อย่างธุรกิจสตรีมมิ่ง มากกว่าการพึ่งพาโรงภาพยนตร์แบบดั้งเดิม ซึ่งถูกจำกัดไม่ให้ดำเนินการอย่างเต็มที่เนื่องจากคำสั่งด้านสาธารณสุข โดยรวม หุ้นของ Disney เพิ่มขึ้น 65% จากปีที่แล้ว

 

2. ประเทศไทยเริ่มศึกษา 'พาสปอร์ตวัคซีน' ฟื้นฟูท่องเที่ยว

นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชากล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าเขาได้ทำการศึกษาเพื่อตรวจสอบการออกใบรับรองการฉีดวัคซีน COVID-19 สำหรับนักเดินทางต่างชาติในขณะที่ประเทศกำลังพยายามที่จะฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ถูกทำลายโดยโคโรนาไวรัส

ไทยกำลังพิจารณา "หนังสือเดินทางวัคซีน" แต่ยังไม่มีการกำหนดวันที่แน่นอน ข่าวดังกล่าวทำให้ SET ปรับตัวขึ้นมายืนเหนือ 1540 และหวังว่าจะคลายความกังวลของนักลงทุนได้ระดับหนึ่ง



3. Redditors ถอดใจจากหุ้น Rocket ?

Rocket Companies Inc (NYSE: RKT) ได้รับความสนใจอย่างมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาโดยพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ มีรายงานว่าอยู่ในกลุ่มเป้าหมายของกลุ่มฟอรัมใน Reddit ซึ่งปั่นราคาหุ้นที่มีการชอร์ตปริมาณมากในการต่อสู้กับกองทุนยักษ์ใหญ่ใน Wall Street

Rocket ปรับตัวลง 32% ในวันพุธในช่วงเวลาทำการ หลังจากเพิ่มขึ้น 71% ในวันอังคาร แต่แล้วมันกลับเพิ่มขึ้น 2% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ นักลงทุนรอดูสถานการณ์ว่าหุ้นตัวนี้จะไปในทิศทางใดต่อไป

 

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย