InfoQuest - ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (11 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นโนโว นอร์ดิสค์ที่พุ่งขึ้นขานรับข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับยาโอเซมปิก (Ozempic) ซึ่งเป็นยารักษาโรคเบาหวาน แต่การร่วงลงของหุ้นแอลวีเอ็มเอช (LVMH) สกัดกั้นการปรับตัวขึ้นของตลาด
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 453.16 จุด เพิ่มขึ้น 0.68 จุด หรือ +0.15%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,131.21 จุด ลดลง 31.22 จุด หรือ -0.44%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,460.01 จุด เพิ่มขึ้น 36.49 จุด หรือ +0.24% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,620.03 จุด ลดลง 8.18 จุด หรือ -0.11%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ ขณะที่ตลาดหุ้นต่าง ๆ ในยุโรปปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกัน
หุ้นโนโว นอร์ดิสค์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์ของเดนมาร์ก พุ่งขึ้น 4.9% หลังรายงานความสำเร็จในการทดลองยาโอเซมปิกในการรักษาโรคไตวายในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
แต่หุ้นฟรีซีเนียส เมดิเคิล แคร์ ซึ่งเป็นบริษัทฟอกไตของเยอรมนี ร่วง 17.5% จากข่าวดังกล่าวของโนโว นอร์ดิสค์
หุ้นทราวิส เพอร์กินส์ ซึ่งเป็นบริษัทขายวัสดุก่อสร้างของอังกฤษ ร่วง 6.2% หลังปรับลดคาดการณ์ผลกำไรทั้งปี
หุ้นแอลวีเอ็มเอชซึ่งเป็นบริษัทสินค้าแบรนด์หรูของฝรั่งเศส ร่วงลง 6.5% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน หลังรายงานผลกำไรเพิ่มขึ้น 9% ในไตรมาส 3/2566 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวที่ชะลอลง หลังกระแสการใช้จ่ายที่แข็งแกร่งหลังยุคโควิดนั้นได้แผ่วลง
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราอื่น ๆ ปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นแอร์เมสและเคอริงลดลงราว 1.5% และดัชนีหุ้นบริษัทสินค้าหรูหราชั้นนำ 10 แห่ง ร่วงลง 2.7% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจในสัปดาห์นี้ไปที่การเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐและความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย และตลาดรอการเปิดเผยรายงานการประชุมเดือนก.ย.ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังในการซื้อขาย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางได้เพิ่มแนวโน้มที่จะทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอีก