รับส่วนลด 40%
🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดลบ 1.17 จุดช่วงบ่ายฟื้น การเมืองคืบหน้าหลังศาลรธน.ตีตกคำร้องปมโหวตนายกฯซ้ำ

เผยแพร่ 17/08/2566 00:13
© Reuters.  ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดลบ 1.17 จุดช่วงบ่ายฟื้น การเมืองคืบหน้าหลังศาลรธน.ตีตกคำร้องปมโหวตนายกฯซ้ำ
SETI
-
AOT
-
CPALL
-
KBANK
-

InfoQuest - SET ปิดวันนี้ที่ 1,519.56 จุด ลดลง 1.17 จุด (-0.08%) มูลค่าซื้อขาย 59,402.80 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ช่วงบ่ายฟื้นตัว หลังศาลรธน.ไม่รับวินิจฉัยปมเสนอชื่อโหวตนายกฯซ้ำ ทำให้การโหวตนายกฯดำเนินต่อไปได้ หลังจากนี้ติดตามประธานรัฐสภากำหนดวันประชุมสภาโหวตนายกฯ แนวโน้มตลาดพรุ่งนี้ฟื้นตัวต่อ หลังจากการเมืองมีความคืบหน้ามากขึ้น รวมทั้งคืนนี้ติดตามรายงานสรุปผลการประชุมเฟด คาดว่าจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์พักตัวลงมาได้ ซึ่งจะชะลอการไหลออกของกระแสเงินทุนต่างชาติ ให้แนวต้าน 1,525 – 1,530 จุด แนวรับ 1,515 จุด

SET ปิดวันนี้ที่ 1,519.56 จุด ลดลง 1.17 จุด (-0.08%) มูลค่าซื้อขาย 59,402.80 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวแดนลบ แต่ช่วงบ่ายลดช่วงลบ โดยดัชนีทำจุดสูงสุด 1,521.41 จุด และทำจุดต่ำสุด 1,506.00 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 198 หลักทรัพย์ ลดลง 294 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 146 หลักทรัพย์

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้ช่วงบ่ายฟื้นตัวกลับมาได้ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยปมเสนอชื่อโหวตนายกรัฐมนตรีซ้ำอีกในสมัยประชุมเดียวกัน ทำให้การโหวตนายกฯสามารถดำเนินต่อไปได้ หลังจากนี้ขึ้นอยู่กับว่าประธานรัฐสภาจะกำหนดวันในการประชุมสภาโหวตนายกฯ วันใด ทำให้ตลาดมีการฟื้นตัวกลับขึ้นมา

แนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวขึ้นต่อ เนื่องจากการเมืองมีความคืบหน้ามากขึ้น น่าจะเห็นการฟื้นขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,525 - 1,530 จุดได้ รวมทั้งในคืนนี้ติดตามรายงานสรุปผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดว่าน่าจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์พักตัวลงมาได้ ซึ่งจะช่วยชะลอการไหลออกของกระแสเงินทุนต่างชาติที่ช่วงหลังกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทย

โดยให้แนวต้าน 1,525 - 1,530 จุด แนวรับ 1,515 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

HANA มูลค่าการซื้อขาย 5,062.14 ล้านบาท ปิดที่ 59.75 บาท เพิ่มขึ้น 7.50 บาท

CPALL (BK:CPALL) มูลค่าการซื้อขาย 2,081.49 ล้านบาท ปิดที่ 62.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

KBANK (BK:KBANK) มูลค่าการซื้อขาย 2,032.28 ล้านบาท ปิดที่ 126.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,871.27 ล้านบาท ปิดที่ 160.50 บาท ลดลง 1.00 บาท

AOT (BK:AOT) มูลค่าการซื้อขาย 1,843.43 ล้านบาท ปิดที่ 70.25 บาท ลดลง 0.50 บาท

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย