โดย Ambar Warrick
Investing.com – ค่าเงินเอเชียส่วนใหญ่ร่วงลงในวันพฤหัสบดีเนื่องจากนักลงทุนเห็นถึงสัญญาณที่หลากหลายจากธนาคารกลางสหรัฐฯ เกี่ยวกับแผนการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่เงินหยวนของจีนอ่อนค่าลงเพราะความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับวิกฤตอสังหาริมทรัพย์
ค่าเงิน หยวน ลดลง 0.2% เป็น 6.7912 ซื้อขายใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนเนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อเศรษฐกิจจีนที่ตกต่ำ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ Country Garden Holdings Company Ltd (HK:2007) ได้ออกมากล่าวเตือนถึงรายได้ที่ลดลงก็ทำให้เกิดความกังวลใหม่เกี่ยวกับการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีท่าทีว่าจะขยายไปสู่มุมอื่น ๆ ของเศรษฐกิจ
โดยคำเตือนจากบริษัทยักษ์ใหญ่เกิดขึ้นหลังจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีนในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งได้กระตุ้นให้ทางการออกมาตรการหนุนเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
และอีกปัจจัยที่ส่งผลให้เงินหยวนอ่อค่าลงคือการที่ธนาคารกลางจีน ลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อต้นสัปดาห์นี้ อย่างไม่คาดคิด
สกุลเงินเอเชียอื่น ๆ ร่วงลงในวันพฤหัสบดี หลังจาก รายงานการประชุมจากเฟดในเดือนก.ค. แสดงให้เห็นว่าสมาชิกส่วนใหญ่สนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น
เงิน USD/INR อ่อนค่าลง 0.4% ในขณะที่ USD/KRW ร่วงลง 0.3% JPY/USD ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อประมาณ 135.09
เฟดยอมรับว่าในที่สุดจะลดอัตราการตึงตัวทางการเงินลงเมื่ออัตราเงินเฟ้อในประเทศลดลง โดยอัตราเงินเฟ้อ สหรัฐอเมริกาในเดือนกรกฎาคมที่อ่อนตัวเกินคาดทำให้เทรดเดอร์เชื่อว่าจะมีการ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ในเดือนกันยายน แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
ดัชนีดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยหลังจากการเผยแพร่ของรายงานการประชุม และซื้อขายสูงขึ้น 0.1% ในวันพฤหัสบดี สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดอลลาร์สหรัฐฯ ก็เพิ่มขึ้น 0.1% ด้วย
จากแนวโน้มดังกล่าว ค่าเงิน เปโซฟิลิปปินส์ ปรับตัวขึ้น 0.2% ก่อนการขึ้น อัตราดอกเบี้ย โดยธนาคารกลางฟิลิปปินส์ในวันนี้
ธนาคารกลางฟิลิปปินส์คาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐานเป็น 3.25% ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ค่าเงินบาท USD/THB อ่อนค่าอย่างรุนแรง +0.66% มาอยู่ที่ 35.695 บาทต่อดอลลาร์