Investing.com - ห้าเรื่องที่คุณควรทราบเกี่ยวกับตลาดการเงินในวันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายนมีดังต่อไปนี้
1. การเสนอขายหุ้นครั้งใหญ่ของ Alibaba ในฮ่องกง
Alibaba (NYSE:BABA) ได้ทำสถิติการเสนอขายหุ้นครั้งใหญ่ที่สุดของโลกในปีนี้ ด้วยการขายหุ้นใหม่ถึง 575 ล้านหุ้น และมีราคาหุ้นอยู่ที่ประมาณ $24.01 ในการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
หมายความว่าการเสนอขายหุ้นจะระดมทุนได้สูงสุดถึง 1.38 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหากบริษัททำ 'Greenshoe option' ได้สำเร็จ
การจดทะเบียนหุ้นครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางภาวะวิกฤตของฮ่องกงและตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง หลังจากการประท้วงได้เริ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ (ล่าสุดวันนี้รัฐบาลได้กล่าวโทษกลุ่มผู้ประท้วงว่าเป็นฝ่ายใช้ก้อนอิฐทำร้ายร่างกายพนักงานทำความสะอาดวัย 70 ปีจนเสียชีวิต ซึ่งเขาเป็นเพียงผู้ยืนดูเหตุการณ์ในการประท้วงแห่งหนึ่งเท่านั้น)
2. ยอดค้าปลีก, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ
ยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ประจำเดือนตุลาคมจะช่วยให้ตลาดทราบถึงสภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขณะก้าวเข้าสู่ไตรมาสที่สี่ หลังจากข้อมูลทางเศรษฐกิจจีนออกมาย่ำแย่เกินคาด และประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ ได้ให้คำกล่าวต่อหน้าสภาคองเกรสและยืนยันว่าน่าจะไม่มีการลดอัตราดอกเบี้ยอีกจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะอ่อนแอลงอย่างเห็นได้ชัด
ยอดค้าปลีก (มีกำหนดการในเวลา 7:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก 1230 GMT) คาดว่าจะพลิกฟื้นขึ้นมา 0.2% จากขาลงอย่างเฉียบพลันเมื่อเดือนกันยายน ขณะที่ ยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายสินค้าประเภทยานยนต์ คาดว่าจะออกมาสูงขึ้น 0.4%
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม จะประกาศออกมาในเวลา 8:15 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1315 GMT) ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงจากเดือนกันยายนที่ 0.4% ส่วน ดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรม คาดว่าจะหดตัวลง 0.6%
3. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้รับแรงหนุนจากคำกล่าวของนายคุดโลว์
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เตรียมเปิดตัวในแดนบวกวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากคำกล่าวของที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของทำเนียบขาว นายแลร์รี คุดโลว์ ที่เผยว่าข้อตกลงทางการค้ากับจีนเริ่มเข้าใกล้บทสรุปแล้ว
สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า แตะระดับสูงสุดครั้งใหม่เมื่อคืนนี้ที่ 3,110.38 แต่กลับย่อตัวลงเล็กน้อยแล้วยืนอยู่เหนือ 3,100 เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1130 GMT) สูงขึ้นมา 0.2% จากช่วงครึ่งหลังของวันนี้ สัญญาซื้อขายดัชนี Dow ล่วงหน้า ก็ปรับขึ้น 0.2% ขณะที่ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ขยับขึ้น 0.3% โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของ Nvidia หลังจากเวลาตลาดปิดเมื่อคืนนี้
4. IEA คาดว่าปี 2020 อุปทานน้ำมันจะลดลง
องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ส่งสัญญาณเตือนว่ากลุ่มโอเปกและกลุ่มประเทศพันธมิตรที่นำโดยประเทศรัสเซียกำลังจะเจอ "อุปสรรคครั้งใหญ่" ในการรักษาสมดุลของตลาดน้ำมันในปีหน้า
IEA ยังคงตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันในปีหน้าไว้ดังเดิมที่ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ถือเป็นระดับที่ต่ำกว่าอุปทานน้ำมันในกลุ่มประเทศที่ไม่ได้อยู่ในเครือโอเปกเสียอีก ซึ่งคาดว่ากลุ่มโอเปก+ จะทบทวนข้อตกลงการลดกำลังการผลิตน้ำมันอีกครั้งในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคมนี้ หลังจากที่ผ่านมาประเทศสมาชิกอื่น ๆ ได้ต่อต้านการลดกำลังการผลิตน้ำมันลงมากกว่าเดิมมาโดยตลอด
IEA คาดว่าการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเป็น 190,000 บาร์เรล/วันในปีหน้า หลังจากคงเดิมมาตลอดสามไตรมาสแรกของปี 2019 และอุปสงค์น้ำมันจีนคาดว่าจะชะลอตัวลงเหลือ 375,000 บาร์เรล/วัน จาก 600,000 บาร์เรล/วัน
ทางด้าน ราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ ก็เตรียมจบสัปดาห์ในระดับใกล้เคียงกับตอนเปิดสัปดาห์นี้ โดยเมื่อเวลา 6.30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก ราคาน้ำมันขยับลง 0.4% อยู่ที่ $56.58 ต่อบาร์เรล
5. พรรคแรงงานอังกฤษเตรียมขึ้นภาษีบ.เทคโนโลยี หวังหนุนการซื้อคืนกิจการโทรคมนาคม
พรรคแรงงานของสหราชอาณาจักรได้เผยแผนการที่จะซื้อคืนกิจการโทรคมนาคมที่ นางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ เคยได้ขายให้กับภาคเอกชนไปเมื่อ 30 กว่าปีมาแล้ว
โฆษกฝั่งทางการเงินประจำพรรค นายจอห์น แมคดอนเนลล์ เผยว่า พรรคแรงงานต้องการควบคุมดูแลกิจการโทรคมนาคมที่ชื่อ BT หรือเป็นที่รู้จักในนาม Openreach เพื่อมอบเทคโนโลยีบรอดแบนด์แบบไม่มีค่าใช้จ่ายให้แก่ทุกครัวเรือนและธุรกิจภายในปี 2030 ซึ่งเงินทุนสำหรับสนับสนุนแผนการดังกล่าวจะมาจากการเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้นกับบริษัทดิจิทัลยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook (NASDAQ:FB) และ Alphabet (NASDAQ:GOOGL) ของ Google (NASDAQ:GOOGL)
รายงานข่าวดังกล่าวได้ทำให้ราคาหุ้น BT ดิ่งลงไปต่ำสุดถึง 4% และส่งผลกระทบต่อบริษัทคู่แข่งอย่าง Talk Talk ด้วย
ทว่ายังมีเหตุผลอีกหลายประการที่อาจทำให้แผนการนี้ไม่มีวันเกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ