รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์พลาสติกไทยแนวโน้มหดตัว ตามความผันผวนของราคาน้ำมันและเศรษฐกิจโลก

เผยแพร่ 08/07/2563 17:05
อัพเดท 08/07/2563 17:19
© Reuters.
โดย Detchana.K
Investing.com - ศูนย์วิจัยธนาคารออมสินระบุว่าภาวะเศรษฐกิจโลกและคู่ค้าหลักมีทิศทางชะลอตัวลงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19และความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและจีนส่งผลให้การส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกของไทยไปยังคู่ค้าหลักมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยมีปัจจัยกดดันจาก
-ภาวะเศรษฐกิจไทยที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงส่งผลให้ภาพรวมภาคการผลิตและการบริโภคภายในประเทศมีทิศทางชะลอตัวลงตามไปด้วย ท้าให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกชะลอตัวลง


-ระดับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีความผันผวนสูงส่งผลกระทบต่อราคาเม็ดพลาสติกและต้นทุนการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกของไทยให้มีความผันผวนตามไปด้วย

-เทรนด์รักษ์โลกและกระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลกที่องค์กรต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนได้รณรงค์ให้ลดและเลิกการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวและทดแทนด้วยบรรจุภัณฑ์พลาสติกชีวภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทั้งนี้บรรจุภัณฑ์พลาสติกชีวภาพยังคงมีแนวโน้มเติบโตตามเทรนด์รักษ์โลกกระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และมาตรการลดและเลิกใช้พลาสติกรวมถึงผลิตภัณฑ์พลาสติกเพื่อการก่อสร้างยังคงเติบโตได้จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่และการพัฒนาพื้นที่ EEC ของภาครัฐ

ดัชนีผลผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกเฉลี่ยปี 2562อยู่ที่ระดับ91.65หดตัวลงที่ร้อยละ-3.45(%yoy)โดยผลิตภัณฑ์พลาสติกที่หดตัวลงได้แก่กระสอบพลาสติก แผ่นฟิล์มพลาสติก พลาสติกแผ่นผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ในโต๊ะอาหาร/ครัว/ห้องน้ำและถุงพลาสติกเป็นผลมาจากการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจคู่ค้าหลักทำให้อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมอาหารที่เป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องชะลอตัวลง ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์พลาสติกและบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้ในอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องชะลอตัวลงตามไปด้วย รวมถึงการหดตัวของความต้องการใช้ถุงพลาสติกจากเทรนด์รักษ์โลกด้วยการลดใช้ถุงพลาสติกสำหรับบรรจุสินค้าอุปโภคบริโภค

อย่างไรก็ตามบรรจุภัณฑ์พลาสติกอื่นๆ(ขวดกล่องลัง)และท่อ/ข้อต่อพลาสติกยังคงสามารถเติบโตได้เล็กน้อยจากความต้องการใช้เพื่อการก่อสร้างภายในประเทศเป็นสำคัญสำหรับดัชนีผลผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกในไตรมาส 1 ปี 2563อยู่ที่ระดับ 92.17 หดตัวลงที่ร้อยละ-3.22(%yoy)ซึ่งหดตัวลงอย่างต่อเนื่องตามการชะลอตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจคู่ค้าหลักรวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์พลาสติกและบรรจุภัณฑ์พลาสติกเพื่อใช้ภายในประเทศและใช้ในอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้จากสถานการณ์ภัยแล้งที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมาท้าให้ผลผลิตพืชผลเกษตรที่สำคัญภายในประเทศมีปริมาณลดลง จึงส่งผลให้ความต้องการใช้กระสอบพลาสติกเพื่อใช้บรรจุพืชผลเกษตรหดตัวลงตามไปด้วย

สำหรับการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกในไตรมาส 1ปี 2563 มีมูลค่า31,776.60 ล้านบาท หดตัวลดลงร้อยละ-2.20(%yoy)จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจคู่ค้าหลักซึ่งสินค้าผลิตภัณฑ์พลาสติกของไทยที่มีมูลค่าการส่งออกลดลง ได้แก่ผลิตภัณฑ์พลาสติกอื่นๆแผ่นฟิล์ม/ฟอยล์/แถบพลาสติก กล่อง/หีบพลาสติก ถุง/กระสอบพลาสติกและพลาสติกปูพื้นและผนัง

ทั้งนี การส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกของไทยไปยังสหรัฐฯ กลับมีแนวโน้มขยายตัวโดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกอื่นๆถุง/กระสอบพลาสติกแผ่นฟิล์ม/ฟอยล์/แถบพลาสติกและหลอด/ท่อพลาสติกซึ่งไทยได้รับอานิสงส์จากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและจีนซึ่งท้าให้สหรัฐฯ ชะลอการนำเข้าผลิตภัณฑ์พลาสติกจากจีนและหันมานำเข้าผลิตภัณฑ์พลาสติกจากไทยทดแทนจีนเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19ที่ได้แพร่ระบาดไปยังทั่วทุกภูมิภาคของโลกยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลซ้ำเติมต่ออุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์พลาสติกเนื่องจากทำให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญมีแนวโน้มแย่ลง อีกทั้งยังได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากมาตรการ Lockdown ของแต่ละประเทศที่จะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและภาคการผลิตในอุตสาหกรรมต่อเนื่องเกิดการหยุดชะงัก ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์พลาสติกของไทยในช่วงตั้งแต่ไตรมาส 2 มีแนวโน้มชะลอตัวลง

ศูนย์วิจัยธนาคารออมสินคาดว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อมูลค่าการส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์พลาสติกของไทยในช่วงไตรมาส 2 จนถึงสิ้นปี2563โดยมีมูลค่าความเสียหาย 3,880 ถึง 6,200 ล้านบาท หรือคิดเป็น3.0%ถึง4.8% ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกของไทยโดยผลิตภัณฑ์พลาสติกที่คาดว่าจะได้รับความเสียหายมาก ได้แก่ แผ่นฟิล์ม/ฟอยล์/แถบพลาสติกและถุง/กระสอบพลาสติก

ข้อมูลจา่กศูนย์วิจัยออมสิน

กดที่นี่เพื่ออ่านรายงานฉบับเต็ม

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย