โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนฝั่งสหรัฐ-ยุโรปในวันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคมมีดังต่อไปนี้
1. ทัศนะของเพาเวลล์หนุนทองคำให้ปรับตัวขึ้น
ประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ ได้ให้สัมภาษณ์กับ CBS ว่าเศรษฐกิจสหรัฐน่าจะฟื้นตัวอย่างมั่นคงในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ก็ได้เตือนด้วยว่าการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์อาจใช้เวลาจนถึงปี 2021 และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะหวนกลับมาสู่ระดับก่อนเกิดการระบาดได้ก็ต่อเมื่อมีการพัฒนาวัคซีนที่สามารถใช้งานได้ทั่วโลก
และเพาเวลล์ยังเน้นย้ำอีกด้วยว่า เฟดยังมีเครื่องมืออีกมากที่พร้อมช่วยเหลือเศรษฐกิจสหรัฐ แต่เฟดยังไม่เห็นด้วยกับการใช้อัตราดอกเบี้ยที่ติดลบ
คำกล่าวของเขาถือเป็นชนวนสำคัญที่ช่วยหนุนราคาทองคำให้แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีเมื่อคืนนี้
2. WHO ประชุมประจำปี, นาวาร์โรเพ่งเล็งจีน
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เริ่มต้นการประชุมประจำปีเป็นระยะเวลาสองวันท่ามกลางความไม่ไว้วางใจและกระแสคัดค้านจากกลุ่มสมาชิกรายใหญ่ในองค์การ โดยการประชุมครั้งนี้จะมุ่งเน้นเกี่ยวกับการสืบหาต้นกำเนิดและวิธีการรับมือกับไวรัสโคโรนา
ทว่า WHO กลับไม่ได้เชิญไต้หวัน ซึ่งไต้หวันมีการรับมือกับการระบาดที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลกเนื่องจากมียอดผู้ติดเชื้อต่ำกว่า 500 รายและมีผู้เสียชีวิตเพียง 7 รายเนื่องจากมาตรการการตรวจหาผู้ติดเชื้อและการติดตามประวัติการสัมผัสผู้ติดเชื้อที่เข้มงวด โดยไต้หวันไม่ได้เป็นสมาชิกของสหประชาชาติเนื่องจากไม่ได้รับการยอมรับทั่วโลกในฐานะประเทศ โดยจีนเองก็ยังคัดค้านการเข้าร่วมของไต้หวันแม้ว่าไต้หวันอาจมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่จะแบ่งปันแก่ทั่วโลกได้ก็ตาม
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว นายปีเตอร์ นาวาร์โร ได้กล่าวหาว่าจีนจงใจ 'ฝังราก' การระบาดครั้งนี้ด้วยการอนุญาตให้ประชาชนเดินทางออกนอกประเทศด้วยเครื่องบินแม้จะทราบดีถึงปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
3. ตลาดหุ้นเตรียมเปิดตัวในแดนบวก, ตลาดหุ้นยุโรปทะยานขึ้นหลังปลดแบนการส่งคำสั่งขายชอร์ต
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมเปิดตัวในแดนบวกหลังจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทั่วโลกได้เริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์และธุรกิจต่าง ๆ เริ่มกลับมาดำเนินงานอีกครั้ง
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1030 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow Jones 30 ล่วงหน้าขยับขึ้น 357 จุดหรือ 0.5% ส่วนสัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าบวกขึ้น 1.5% และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า บวกขึ้น 1.2%
ทางฝั่งยุโรปดัชนี Stoxx 600 ดีดขึ้น 2.0% ส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มหุ้นเหมืองแร่ที่พุ่งสูงขึ้นเพราะนักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าอุตสาหกรรมและการดำเนินงานของผู้ผลิตทองคำจะพลิกฟื้นกลับมา และหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหลายแห่งในยุโรปก็ได้ยกเลิกการระงับการส่งคำสั่งขายชอร์ตที่ได้ประกาศไปเมื่อเดือนมีนาคมหลังเกิดการเทขายด้วยความแตกตื่น
4. ราคาทองคำปรับตัวขึ้นท่ามกลางสัญญาณเสถียรภาพ
ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมหลังจากมีสัญญาณที่บ่งบอกถึงเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน และอุปสงค์น้ำมันเบนซินค่อย ๆ ฟื้นตัวในตลาดหลักและผู้ผลิตน้ำมันทั้งของภาครัฐและเอกชนก็ได้ลดกำลังการผลิตน้ำมันตามแถลงการณ์
เมื่อเวลา 6:30 น. สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐ ทะยานขึ้น 7.3% เท่ากับ $31.67 ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาเบรนท์ ปรับตัวขึ้น 5.8% เท่ากับ $34.37 ต่อบาร์เรล
ข้อมูลจากบริษัทที่ปรึกษาเอกชน Seevol ระบุว่าปริมาณน้ำมันที่กักเก็บในแหล่งกักเก็บน้ำมันที่เมืองคุชชิง โอกลาโฮมา ในสัปดาห์ล่าสุดได้ลดลงไป 5.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งถ้าหากตัวเลขดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกาและตัวเลขอย่างเป็นทางการจากภาครัฐในอีกสามวันข้างหน้า ก็จะแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่อุปสงค์อุปทานจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะสมดุล
5. เงินปอนด์สเตอร์ลิงและผลตอบแทนพันธบัตรอังกฤษปรับตัวลง, ธนาคารกลางอังกฤษจ่อใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบ
เงินปอนด์สเตอร์ลิงปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม หลังจากหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารกลางอังกฤษ นายแอนดรูว์ ฮัลเดน ได้ให้สัมภาษณ์กับ Sunday Telegraph ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางอังกฤษกำลังพิจารณาการใช้อัตราดอกเบี้ยแบบติดลบ
ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษคนก่อน นายมาร์ค คาร์นีย์ ได้เคยปฏิเสธและชี้ว่าการใช้อัตราดอกเบี้ยแบบติดลบนั้นไม่ได้ผล แต่ฮัลเดนเผยว่าธนาคารกลางอังกฤษกำลังพิจารณาประเด็นดังกล่าว "อย่างด่วนที่สุด" เนื่องจากการหดตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง
เมื่อเวลา 6:30 น. ค่าเงินปอนด์อยู่ที่ $1.2130 ฟื้นตัวกลับมาเล็กน้อยจากจุดต่ำสุดระหว่างวัน $1.2085 ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหราชอาณาจักรแบบอายุสองปีเท่ากับ -0.04%