ราคาเหรียญ Binance Coin ( BNB ) ได้เติบโตเพิ่มขึ้น กว่า 1,760% จากระดับ 37 ดอลลาร์ไปเป็น 692 ดอลลาร์ในระหว่างช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2564 แต่ทว่าการเพิ่มขึ้นของราคาอย่างก้าวกระโดดนี้ตามมาด้วยการปรับฐานที่ลดลงกว่า 69% ในอีกสองสัปดาห์ต่อมา นอกเหนือจากการปรับฐานราคาลดลงกว่า 33% จากระดับ All time high แล้ว นักลงทุน BNB ยังมีข้อสงสัยอื่น ๆ เกี่ยวกับคำถามที่ว่าราคาปัจจุบันที่ระดับ 465 ดอลลาร์นั้นเป็นจุดที่มั่นคงแล้วหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนักเทรดฟิวเจอร์ต้องจ่ายเงินค่า funding rate สูงถึง 3% ต่อสัปดาห์ เพื่อทำการเปิด short positoin นักเทรดเริ่มหันมาเชื่อมั่นในแนวโน้มขาลงนับตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม สัญญา perpetual futures นั้นต่างจากสัญญาแบบรายเดือนทั่วไป เนื่องจากว่ามันมีเรทราคาที่ใกล้เคียงกับราคาเหรียญในกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตแบบ Spot เป็นอย่างมาก สิ่งนี้ทำให้การซื้อขายของนักเทรดรายย่อยนั้นง่ายมากขึ้น เพราะพวกเขาไม่จำเป็นจะต้องคำนวณค่าพรีเมียมของสัญญาฟิวเจอร์สหรือปิดเปิด Potions ของตนเองใหม่เมื่อสัญญาใกล้หมดอายุลง โดยปกติแล้วอัตรา funding rate จะถูกเรียกเก็บจากการซื้อ (ผู้ซื้อ) มาจ่ายให้กับฝั่งผู้ขาย เมื่อพวกเขาต้องการใช้เลเวอเรจเพิ่มมากขึ้น จนเกิดความไม่สมดุลขึ้นในตลาด อย่างไรก็ตามในทางกลับกันอัตรา funding rate จะถูกเรียกเก็บจากผู้ขายแทน เมื่อพวกเขาต้องมีการใช้เลเวอเรจมากกว่าฝั่งผู้ซื้อ สิ่งนี้บ่งชี้ให้เห็นว่า นักเทรดเริ่มเปลี่ยนหันมาเชื่อมั่นในแนวโน้มขาลงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยสังเกตเห็นได้จาก อัตรา funding rate ของสัญญา BNB Futures ที่ร่วงลดลงติดลบ 0.13% นับตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม โดยอัตรานี้เทียบเท่ากับ 2.8% ที่ฝั่ง Short position นั้นจะต้องจ่ายเงินให้กับฝั่ง Long เทียบเป็นรายสัปดาห์ ค่าพรีเมี่ยมที่สูงเกินไป สาเหตุเบื้องหลังที่ทำให้การเปิด Short Position ในตลาดเพิ่มขึ้นนั้น อาจเป็นผลมาจากค่าพรีเมียมที่สูงกินไปเมื่อเทียบกับเครือข่ายสัญญา Smart contract คู่แข่งตัวอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น มูลค่าตลาด 7.82
กดอ่านข่าว เผยสาเหตุที่ทำให้ราคาเหรียญ BNB ร่วงลงกว่า 33% จากระดับ ATH ต่อที่ Siam Blockchain