Better fund flow could lead to more catch-up play
- : คาด SET Index แกว่งตัว Sideways ในวันนี้ ถึงแม้จะมีประเด็นความตึงเครียดล่าสุดเมื่อวานนี้ที่จีนเตรียมระงับการสั่งซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐฯบางส่วนเช่นถั่วเหลือง รวมถึงเช้าวันนี้ที่ปธน.โดนัลด์ทรัมป์แถลงข่าวว่ารัฐบาลกลางสหรัฐฯเตรียมส่งกองกำลังทหารเข้าประจำการ ณ เมือง/รัฐต่างๆ เพื่อยุติการจลาจลและปล้นสะดมในประเทศที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลให้ดัชนี futures ย่อลงเล็กน้อยเช้านี้ อย่างไรก็ดีเริ่มเห็นสัญญาณ Fund flow ที่ดีขึ้นทั่วทวีปเอเชีย หลังจากเงิน USD ปรับอ่อนค่าลงในช่วงนี้ ซึ่งทำให้ราคา Commodities ต่างๆเช่นน้ำมันสามารถยืนได้อย่างแข็งแกร่ง ทั้งนี้จากการตรวจสอบเมื่อคืนนี้พบว่า ETF หุ้นไทยสามารถปิดบวกได้ถึง 2.6% ทั้งๆที่ SET ปรับตัวขึ้นเพียง 0.7% เท่านั้น
Catch-up: จากการตรวจสอบราย Sector ไปยังตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้และตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้พบว่า กลุ่มที่มีการปรับตัว Outperform มากที่สุดได้แก่กลุ่ม Real Estate ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้าข่าย Catch-up play หลังปรับตัว Laggard มานาน มองอาจเป็น Sentiment เชิงบวกต่อมายังกลุ่ม Property ของไทย ที่ล่าสุดเป็นกลุ่มที่ปรับตัว Laggard ตลาดเช่นกัน ทั้งในมิติช่วงเวลาตั้งแต่ต้นปี และช่วงเวลา Rally ของ SET รอบนี้ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคมโดยหากนับตั้งแต่ต้นปี จะพบว่า Sector นี้ปรับตัว Laggard ตลาดมากที่สุดเป็นรองแต่เพียง Sector ธนาคารพาณิชย์เท่านั้น (ดูรูป) ซึ่งอาจทำให้กลุ่มนี้เป็นเป้าหมายสำหรับการเวียนกลุ่มของนักลงทุนได้ในช่วงถัดไป มองตัวหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการเก็งกำไรได้แก่หุ้นที่ยังคงปรับตัว Underperform ตลาดนับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นขนาดใหญ่แทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น CPN, AWC, LH (CPN มีการรายงานข่าวเย็นวานนี้ว่าจะปรับลดระดับเงินปันผลจ่ายจากหุ้นละ 1.3 บาทเป็นหุ้นละ 0.8 บาท เพื่อเป็นการรักษาสภาพคล่องของบริษัท มองนักลงทุนในตลาดอาจมองข่าวนี้เป็นจิตวิทยาเชิงบวก)
- June: สำหรับภาพการลงทุนเดือนมิถุนายนนี้ ยังคงคาดการณ์ SET Index เดือนมิถุนายนแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1240-1420 จุด ซึ่งในเชิงกลยุทธ์ ยังคงแนะนำ Selective play เป็นรายตัวต่อไป โดยโฟกัสการลงทุนไปยัง 5 กลุ่มหุ้นที่น่าจะปลอดภัยจากปัจจัยภายนอกที่เริ่มมีความไม่แน่นอนสูงขึ้น ซึ่งได้แก่
- กลุ่มโรงไฟฟ้าได้แก่ BGRIM, GPSC, GULF, RATCH, EGCO
- กลุ่มสื่อสาร ได้แก่ ADVANC, INTUCH
- กลุ่ม Mass transit ได้แก่BEM, BTS
- กลุ่มเกษตรและอาหาร ได้แก่ CPF สำหรับหุ้นขนาดใหญ่ และTFG, GFPT, ASIAN, CFRESH, CHOTI, APURE, SUN, RBF, XO, MALEE สำหรับหุ้นขนาดกลาง-เล็ก
- กลุ่มธุรกิจ AMC ได้แก่JMT
- Supports: มองปัจจัยประคับประคองตลาดหุ้นไทยที่สำคัญยังคงได้แก่ 3 ปัจจัยเดิม ได้แก่ 1) การถือครองหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติที่อยู่ในระดับต่ำมากแล้ว ส่งผลให้เริ่มมีแรงซื้อสุทธิสลับเข้ามาบ้างแล้ว 2) มาตรการ Uptick rule ของตลท.ที่ทำให้มูลค่า Short sales หายไปวันละ 4-5 พันล้านบาท (เมื่อวานนี้มูลค่า Short sales ในตลาดร่วงลงเหลือเพียง 490 ล้านบาทเท่านั้น) และ 3) การเข้ามามีส่วนร่วมในตลาดของนักลงทุนทั่วไปที่มากขึ้น จากสภาพคล่องและปริมาณเงินในระบบ (M2) ที่เอ่อล้น รวมถึงความต้องการอยากเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities
|
|
|