โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- ห้าประเด็นที่คุณควรทราบเกี่ยวกับตลาดการเงินในวันศุกร์ที่ 6 มีนาคมมีดังต่อไปนี้
1. ราคาน้ำมันดิ่ง, รัสเซียคัดค้านการลดกำลังการผลิตน้ำมันตาม OPEC
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ ทรุดตัวลงหลังมีรายงานว่ารัสเซียปฏิเสธการร่วมมือกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือ OPEC ที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันลงเพิ่มอีกในอัตรา 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน
OPEC ได้เห็นชอบข้อเสนอการลดกำลังการผลิตน้ำมันเมื่อวานนี้เนื่องด้วยความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องรักษาสมดุลตลาดน้ำมันโลก เพราะอุปสงค์น้ำมันได้ทรุดตัวลงในไตรมาสแรกเนื่องมาจากการระบาดของไวรัสโคโรนา และองค์กรหลักต่าง ๆ ทั่วโลกก็ได้คาดการณ์ไว้แล้วว่าอุปสงค์น้ำมันน่าจะไม่เติบโตขึ้นตลอดทั้งปีนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างอิงจากแหล่งข่าวไม่ทราบชื่อที่ระบุว่า รัสเซียต้องการที่จะยืดเวลาการลดกำลังการผลิตน้ำมันในอัตราเดิม และแย้งว่ารัฐบาลของทุกประเทศทั่วโลกยังสามารถบังคับใช้มาตรการในแต่ละไตรมาสเพื่อหนุนอุปสงค์น้ำมันได้
เมื่อเวลา 6:40 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1140 GMT) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ทรุดตัวลง 4.4% สู่ระดับ $47.74 ต่อบาร์เรล หลังจากก่อนหน้านี้ลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ $47.02 ต่อบาร์เรล สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐฯ ดิ่ง 4.4% อยู่ที่ $43.84 ต่อบาร์เรล
2. การเทขายหุ้นทั่วโลกยังคงดำเนินต่อไป, ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
นักลงทุนยังคงมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ เป็นแรงกดดันให้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แบบอายุ 10 ปี ปรับตัวลงต่ำสุดถึง 23 จุดและแตะระดับต่ำสุดครั้งใหม่ที่ 0.70%
ตลาดหุ้นยุโรปสูญเสียมูลค่าตามราคาตลาดอีกหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยดัชนี Stoxx 600 ร่วง 3.1% ลงสู่ระดับ 369.18 ดัชนี DAX ของเยอรมนีปรับตัวลง 3.0% และดัชนี FTSE 100 ของสหราชอาณาจักรติดลบ 2.8%
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีแบบอายุ 10 ปี ลงไปแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ -0.74% ก่อนที่จะพลิกฟื้นกลับมา
ตลาดหุ้นเอเชียทรุดตัวลงอย่างหนัก โดยดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นติดลบ 2.7% ขณะที่ค่าเงินเยนยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ คู่ USD/JPY ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่ 105 ก่อนที่จะเด้งกลับขึ้นมา
3. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เตรียมเปิดตัวในแดนลบ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จุดชนวนแนวโน้มการเทขายของตลาดหุ้นทั่วโลก และยังคงไม่มีวี่แววว่าจะเปลี่ยนทิศทางในวันนี้
ดัชนีหลักทั้งสามดัชนีของสหรัฐฯ เตรียมติดลบหนักกว่า 2% โดยล่าสุดเมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1130 GMT) สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี Dow 30 ติดลบ 586 จุดหรือราว 2.2% สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ทรุด 2.6% และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ปรับตัวลง 2.9%
ขาลงของตลาดหุ้นครั้งนี้ตามมาหลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ได้รับการยืนยันในยุโรปและอิหร่านเริ่มพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ
จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทั่วโลกขณะนี้สูงกว่า 99,000 รายแล้ว ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตก็พุ่งสูงกว่า 3,300 ราย
4. ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรอาจถูกมองข้ามในวันนี้, ตลาดให้ความสนใจกับสถานการณ์การระบาดมากกว่า
สำนักงานสถิติประจำตลาดแรงงานสหรัฐฯ เตรียมเผยแพร่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ แม้ว่าขณะนี้ตลาดจะจับตาสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาและนโยบายการรับมือกับการระบาดมากกว่าก็ตาม
นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร น่าจะชะลอตัวลงเหลือ 175,000 ตำแหน่ง จากเดือนมกราคมที่ 225,000 ตำแหน่ง ขณะที่ ค่าจ้างโดยเฉลี่ยรายชั่วโมง คาดว่าจะสูงขึ้น 0.3% หลังจากเมื่อเดือนมกราคมอยู่ในระดับที่ต่ำสุดในรอบ 11 เดือน
ทางด้าน ยอดคำสั่งซื้อโรงงานเยอรมนี ก็ค่อนข้างย่ำแย่ในลักษณะเดียวกัน หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วยุโรปยิ่งพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ
5. รัฐบาลเข้าควบคุมธนาคารอันดับที่สี่ของประเทศอินเดีย
ค่าเงินรูปีอินเดียอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 74.075 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากหน่วยงานทางกฎหมายของอินเดียได้เข้าควบคุมดูแลธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของอินเดียที่ชื่อ Yes Bank
รายงานดังกล่าวตามมาหลังจากกระแสโลกมีความหวาดหวั่นมากขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับระบบสาธารณสุขของอินเดียที่ขาดความพร้อมอย่างยิ่งในการต่อกรกับการระบาดของไวรัสโคโรนา เนื่องด้วยระบบสาธารณสุขที่มีข้อจำกัด รวมทั้งความยากลำบากด้านสุขอนามัยและการเข้าถึงน้ำสะอาดโดยเฉพาะในเขตชนบท