ข่าวเด่น
เสนอซื้อเสนอขาย
ประเภทตราสารทั้งหมด

โปรดลองค้นหาใหม่อีกครั้ง

รับส่วนลด 40% 0
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

สินค้าโภคภัณฑ์มากมายหลากหลาย

 

สินค้าโภคภัณฑ์มักจะซิกเวลาตลาดหุ้นแซก

-จิม โรเจอร์ส

สินค้าโภคภัณฑ์ที่เราขุดและทำให้เติบโตนั้นเป็นรากฐานสำคัญแห่งอารยธรรม ก่อตัวเป็นอิฐบล็อกที่รองรับเศรษฐกิจสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่ใช้เลี้ยงประชากรโลกที่กำลังเติบโต โลหะที่รับผิดชอบในทุกด้านของอุตสาหกรรมและการก่อสร้าง หรือเชื้อเพลิงที่ให้พลังงานแก่บ้านและยานพาหนะของเรา สินค้าโภคภัณฑ์มีบทบาทอย่างกว้างขวางในเกือบทุกด้านของชีวิตประจำวันของเรา

การซื้อขายแบบทันที (Spot) เทียบกับแบบล่วงหน้า (Futures)

แม้การแลกเปลี่ยนสินค้าที่จับต้องได้ในการแลกเปลี่ยนสินค้าต่อสินค้าจะมีมานานนับพันปี แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อมีการเปิดตัวการตกลงซื้อขายข้าวล่วงหน้าอย่างเป็นมาตรฐาน ซึ่งได้รับการบุกเบิกขึ้นในตลาดซื้อขายข้าวล่วงหน้าโดจิม่าของประเทศญี่ปุ่น (Japanese Dojima Rice Exchange) แนวคิดเบื้องหลังการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าคือการทำให้เกษตรกรและพ่อค้าสามารถซื้อขายแลกเปลี่ยนข้าวและเงินกัน ณ วันที่ในอนาคตและตกลงราคากันไว้ล่วงหน้าได้ ซึ่งช่วยเพิ่มเสถียรภาพและโอกาสในการถ่ายโอนความเสี่ยงให้กับทุกฝ่าย

โดยทำให้มั่นใจได้ว่าพ่อค้าจะสามารถเข้าถึงอุปทานที่คงที่ของสินค้าโภคภัณฑ์ ในขณะที่เกษตรกรก็สามารถหลีกเลี่ยงความผันผวนของราคาในตลาดซื้อขายทันทีได้ ตลาดซื้อขายทันที (Spot Market) นั้นต่างจากตลาดซื้อขายล่วงหน้า (Futures Market) ที่เป็นการตกลงกันระหว่างสองฝ่ายเพื่อทำการแลกเปลี่ยนกันในอนาคต ตลาดซื้อขายทันทีสามารถถูกมองได้ว่าเป็นตลาด ณ ปัจจุบัน หรือสินค้าโภคภัณฑ์หนึ่งหน่วยมีราคาเท่าไรในช่วงเวลานั้น ๆ

เวลาผ่านไปเร็วจนปัจจุบัน ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์มีทั้งตลาดแบบซื้อขายทันทีและแบบซื้อขายล่วงหน้า โดยทั่วไป ผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์มักจะใช้ตลาดซื้อขายล่วงหน้าเพื่อกัน (ป้องกันความเสี่ยง) การตกฮวบของราคาแบบซื้อขายทันที ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตสามารถวางแผนและตรึงราคาต้นทุนการผลิตในอนาคตของตนได้ สายการบินอาจใช้ตลาดซื้อขายล่วงหน้าเพื่อป้องกันความเสี่ยงเกี่ยวกับต้นทุนเชื้อเพลิงของตนด้วยเช่นกัน ซึ่งจะล็อคราคาน้ำมันไว้เพื่อป้องกันในกรณีที่ราคามีความผันผวนมาก ๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนตั๋วได้

สิ่งที่เปลี่ยนไปในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาคือนักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ได้มากขึ้น แทนที่จะมีเพียงสถาบันและผู้ผลิตที่ครองตลาดแบบแต่ก่อน เทรดเดอร์ที่มีบัญชี FXTM ECN เข้าถึงสินค้าโภคภัณฑ์แบบซื้อขายทันทีได้ 5 รายการ รวมทั้งโลหะและผลิตภัณฑ์พลังงาน ซึ่งช่วยให้เข้าถึงตลาดระดับโลกที่น่าสนใจที่สุดแห่งหนึ่ง

การทำให้เป็นมาตรฐาน

คุณสมบัติของสินค้าโภคภัณฑ์ที่กำหนดไว้ข้อหนึ่งที่ทำให้สามารถซื้อขายสินค้าเหล่านี้ได้ก็คือการทำให้เป็นมาตรฐาน ก็เหมือนกับที่หุ้นทุน (Stock) ของ Apple ได้ถูกแบ่งออกเป็นหน่วยมาตรฐาน หรือว่า หุ้น (Share) โดยหุ้นหน่วยหนึ่งก็จะมีรูปลักษณ์และพฤติกรรมเหมือนกันกับหุ้นหน่วยอื่น ๆ สินค้าโภคภัณฑ์มีความคล้ายคลึงในเรื่องนี้ ด้วยการทำให้เป็นมาตรฐานที่บ่งบอกเป็นนัยว่าสินทรัพย์ที่กำลังซื้อขายกันนั้นสามารถแลกเปลี่ยนกันได้กับหน่วยอื่นใดของสินทรัพย์ตัวเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นบาเรลล์ของน้ำมัน ทรอยออนซ์ของทองคำ หรือบุชเชลของข้าวสาลี หน่วยการซื้อขายของสินค้าโภคภัณฑ์แต่ละหน่วยจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดและเกณฑ์มาตรฐาน

แต่ความจริง คุณลักษณะของสินค้าก็อาจยังคงมีความแตกต่างกันอยู่บ้างเล็กน้อย อย่างเช่น น้ำมันดิบ West Texas Intermediate นั้นไม่ต้องมีการกลั่นอะไรมากในการผลิตน้ำมันสำหรับยานยนต์ น้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบิน และผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลียมอื่น ๆ แต่ไกลออกไปทางเหนือในแคนาดา น้ำมันดิบที่สกัดจากทรายน้ำมัน (Oil Sands) หนากว่าและมีปริมาณกำมะถันสูงกว่า จึงต้องมีการกลั่นที่ค่าใช้จ่ายแพงกว่า

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการกำหนดราคาสินค้าโภคภัณฑ์

ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ไวต่อปัจจัยหลายอย่างที่อาจส่งผลกระทบต่อการกำหนดราคาได้ แม้อุปสงค์และอุปทานจะมีบทบาทอย่างมากในการกำหนดพฤติกรรมราคา ปัจจัยเหล่านี้ก็ยังสามารถแบ่งย่อยลงไปได้อีก นั่นคือ

  • สภาพอากาศ: สำหรับสินค้าเกษตร เช่น ข้าวสาลี น้ำตาล โกโก้ ฝ้าย และอื่น ๆ สภาพอากาศที่ร้อนกว่า หนาวเย็นกว่า หรือฝนตกชุกกว่าอาจมีผลต่อการเก็บเกี่ยว และเพราะฉะนั้นจึงส่งผลต่ออุปทานด้วย ในทางตรงกันข้าม สภาพอากาศที่เย็นกว่าอาจเพิ่มความต้องการน้ำมันให้ความร้อนและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นได้
  • ต้นทุนการผลิต: หากต้นทุนการผลิตสินค้าเกินมูลค่าตลาด ผู้ผลิตอาจตัดสินใจปิดการดำเนินงานเพื่อหลีกเลี่ยงการขาดทุน อย่างไรก็ตาม หากราคาตลาดสูงกว่าต้นทุนการผลิต ก็อาจกระตุ้นการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มอุปทาน และในที่สุดก็มีส่วนทำให้ราคาลดลง
  • ภูมิรัฐศาสตร์: ภัยคุกคามจากความขัดแย้งหรือสงครามการค้าอาจส่งผลเสียต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของโลก ซึ่งไปกระทบความต้องการสินค้าหลัก ๆ ในขณะที่ไปเพิ่มความต้องการใช้สินค้าตัวอื่น ๆ แทน
  • กฎข้อบังคับ: การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นอาจทำให้รัฐบาลพยายามเพิ่มการประหยัดเชื้อเพลิงหรือลดมลพิษที่เป็นอันตราย ซึ่งอาจส่งผลต่อผู้ผลิตและผู้บริโภคสินค้า และมีผลกระทบต่อทั้งอุปสงค์และอุปทาน
  • หนีสู่ความปลอดภัย: เมื่อนักลงทุนเริ่มกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก พวกเขาอาจแสวงหาความปลอดภัยสัมพัทธ์ของสินค้าบางตัว เช่น ทองคำ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามีเสถียรภาพมากกว่าในช่วงที่เกิดความวุ่นวาย

แม้ว่ารายการปัจจัยข้างต้นจะยังไม่ครบถ้วน แต่ก็ได้เน้นให้เห็นถึงปัจจัยที่แตกต่างกันหลาย ๆ ประการที่อาจมีส่วนในการกำหนดราคาสินค้าได้

ความคิดทิ้งท้ายเกี่ยวกับการเทรดสินค้าโภคภัณฑ์

การก้าวไปอย่างรวดเร็วของโลกาภิวัตน์หมายความว่าสินค้ามีบทบาทสำคัญทั่วทั้งเศรษฐกิจโลก นักลงทุนสามารถเข้าถึงตลาดแห่งนี้กันได้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก็ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์แบบซื้อขายทันทีและแบบซื้อขายล่วงหน้าบนแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์

สินค้าโภคภัณฑ์มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับพอร์ตการลงทุนแบบกระจาย เนื่องจากความสัมพันธ์ที่อ่อนแอกับการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ประเภทอื่น เช่น หุ้นทุน (Stock) และหุ้นกู้ (Bond) แม้ว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาเนื่องจากตัวแปรที่หลากหลายที่อาจส่งผลกระทบต่อการกำหนดราคา สินค้าโภคภัณฑ์ก็ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการลงทุนสมัยใหม่อย่างแท้จริง

ข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบ: บทความ/ทัศนวัสดุนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและมุมมองส่วนบุคคล ไม่ควรตีความเนื้อหาว่ามีคำแนะนำในการลงทุนประเภทใด ๆ และ/หรือการชักชวนให้ทำธุรกรรมใด ๆ ไม่ได้ส่อความถึงภาระผูกพันในการซื้อบริการการลงทุน และไม่รับประกันหรือทำนายผลการดำเนินงานในอนาคต FXTM บริษัทในเครือ ตัวแทน กรรมการบริษัท เจ้าหน้าที่ หรือพนักงานไม่รับประกันความถูกต้อง ความแม่นยำ ความทันเวลา หรือความสมบูรณ์ของข่าวสารหรือข้อมูลใด ๆ ที่มีให้และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการลงทุนบนพื้นฐานเดียวกันนั้น

การปฏิเสธความรับผิด: บทความ/ทัศนวัสดุนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและมุมมองส่วนบุคคล ไม่ควรตีความเนื้อหาว่ามีคำแนะนำในการลงทุนประเภทใด ๆ และ/หรือการชักชวนให้ทำธุรกรรมใด ๆ ไม่ได้ส่อความถึงภาระผูกพันในการซื้อบริการการลงทุน และไม่รับประกันหรือทำนายผลการดำเนินงานในอนาคต FXTM บริษัทในเครือ ตัวแทน กรรมการบริษัท เจ้าหน้าที่ หรือพนักงานไม่รับประกันความถูกต้อง ความแม่นยำ ความทันเวลา หรือความสมบูรณ์ของข่าวสารหรือข้อมูลใด ๆ ที่มีให้และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการลงทุนบนพื้นฐานเดียวกันนั้น
FXTM เป็นโบรกเกอร์ซื้อขายฟอเร็กซ์ออนไลน์ระหว่างประเทศที่ให้บริการทางการเงินในตลาดฟอเร็กซ์ CFD ของโลหะแบบซื้อขายทันทีและ CFD ของสินค้าโภคภัณฑ์แบบซื้อขายล่วงหน้า ดัชนี และหุ้น
แบรนด์ FXTM ได้รับอนุญาตและกำกับดูแลภายใต้หลายเขตอำนาจศาล ForexTime Limited (www.forextime.com/eu) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ไซปรัส หมายเลขใบอนุญาต CIF 185/12 และได้รับอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (FSCA) ของแอฟริกาใต้ หมายเลข FSP 46614 นอกจากนี้ บริษัทยังจดทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินของสหราชอาณาจักร หมายเลข 600475 อีกด้วย Exinity Limited (www.forextime.com) อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการบริการด้านการเงินของสาธารณรัฐมอริเชียส โดยถือใบอนุญาตตัวแทนจำหน่ายการลงทุนหมายเลข C1130122 Forextime UK Limited (www.forextime.com/uk) ได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน หมายเลขอ้างอิงของบริษัท 777911
CFD เป็นตราสารที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูงในการสูญเสียเงินอย่างรวดเร็วเนื่องจากเลเวอเรจ 90% ของบัญชีของนักลงทุนรายย่อยสูญเสียเงินเมื่อทำการซื้อขาย CFD กับผู้ให้บริการรายนี้ คุณควรคิดพิจารณาให้ดีว่าคุณเข้าใจวิธีการทำงานของ CFD แล้วและคุณสามารถรับความเสี่ยงสูงในการสูญเสียเงินของคุณได้หรือไม่”
@2019 FXTM

สมัครสมาชิกด้วย Google
หรือ
สมัครสมาชิกด้วยอีเมล