โปรดลองค้นหาใหม่อีกครั้ง
หากคนที่ติดตามข่าวสารทางการเงินมาโดยตลอดอาจพบเห็นเรื่องราวเมื่อเร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับการสูญเงินกว่า 4.3 พันล้านดอลลาร์ของบริษัท Berkshire Hathaway ซึ่งเป็นผลจากการเดิมพันที่ไม่เป็นไปตามคาดในบริษัท Kraft Heinz นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรือครั้งสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นกับนักลงทุน แต่การจดจำความผิดพลาดครั้งสำคัญที่เคยเกิดขึ้นเช่นนี้อาจช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่คล้ายกันในอนาคต ด้านล่างนี้คุณจะได้พบกับความผิดพลาด เรื่องน่าเสียดาย และการตัดสินใจที่เลวร้าย ในประวัติศาสตร์ของการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา
คุณรู้หรือไม่ว่า วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) เริ่มลงทุนครั้งแรกในบริษัท Berkshire Harthaway เมื่อปี 1962? ณ ตอนนั้น มันยังเป็นเพียงบริษัทสิ่งทอที่กำลังตกต่ำ วอร์เรนซื้อหุ้นแบบยกชุดโดยวางแผนที่จะทำกำไรเมื่อโรงงานทอผ้าแห่งอื่น ๆ ปิดตัวลง เมื่อเล็งเห็นอนาคตที่สดใส บริษัทพยายามที่จะบีบเอาเงินสดจากบัฟเฟตต์ให้มากขึ้นซึ่งทำให้เขารู้สึกโกรธ เพื่อเป็นการตอบกลับ บัฟเฟตต์ได้ซื้อหุ้นเพื่อมีอำนาจควบคุมบริษัทและไล่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารออก จากนั้นพยายามที่จะทำให้ธุรกิจทำกำไรอีกครั้งเป็นระยะเวลา 20 ปี เมื่อถูกถามเกี่ยวกับกรณีนี้ บัฟเฟตต์กล่าวว่าเขาประเมินว่าเขาน่าจะสูญเสียเงินไปเป็นจำนวน 200 พันล้านดอลลาร์ ว้าว...
นอกเหนือจากสตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) และ สตีฟ วอซเนียก (Steve Wozniak) แล้ว บริษัท Apple มีผู้ร่วมก่อตั้งคนที่ 3 นั่นคือ - โดนัลด์ เวนน์ (Ronald Wayne) เวนน์มีบทบาทสำคัญในบริษัทระหว่างช่วงปีแรกของบริษัทแต่ภายหลัง 11 วันเขาตัดสินใจว่าบริษัทไม่ได้มีอนาคตแล้ว เขาจึงเทขายหุ้นของเขาไปในราคา 800 ดอลลาร์ (ใช่ เกือบประมาณแปดร้อยดอลลาร์เท่านั้น) หากเขาเก็บหุ้นของเขาไว้ต่อไป ปัจจุบันอาจมีมูลค่ากว่า 32.5 พันล้านดอลลาร์ บางครั้งคุณแค่ต้องถือหุ้นไว้...
ย้อนกลับไปในปี 1977 จอร์จ ลูคัส (George Lucas) ผู้กำกับวัยหนุ่มหน้าใหม่ได้เปิดตัวภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ที่ต่อมาเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะ ภาพยนต์ภาคแรกของ Star Wars ในช่วงนั้น ผู้บริหารของบริษัท Fox ไม่คิดว่ามันจะประสบความสำเร็จนัก พวกเขาจึงให้ลิขสิทธิ์แบรนด์แก่ลูคัส ในปี 2012 ลูคัสขายบริษัทของเขา นั่นคือ Lucasfilm ให้กับบริษัท Disney เพียงแค่ 4 พันล้านดอลลาร์เท่านั้นและในปี 2018 หนังแฟรนไชส์เรื่องสตาร์วอร์สทั้งหมดมีมูลค่าสูงถึง 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์
ย้อนกลับไปในปี 1983 โทชิฮิเดะ อิกูชิ (Toshihide Iguchi) เคยทำงานเป็นผู้จัดการพอร์ตในธนาคาร Daiwa ของญี่ปุ่นที่สาขานิวยอร์ก เขาเทรด Federal Reserve Notes (FRN) แต่ทำให้ขาดทุนมูลค่า $70,000 ด้วยความพยายามที่จะปกปิดการขาดทุนของเขาและรักษาชื่อเสียงไว้ เขาเก็บความผิดพลาดนี้เป็นความลับเป็นเวลาหลายปีเมื่อการขาดทุนเริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 1992 อูกูชิกล่าวโทษว่าความผิดพลาดที่มีมูลค่าในในปัจจุบัน 350 ล้านดอลลาร์เป็นความผิดพลาดของ 2 นักเทรดด้อยอาวุโสซึ่งนำไปสู่การสอบสวนของรัฐบาลกลางแต่ไม่พบความผิดใด ๆ ภายในปี 1995 มูลค่าการขาดทุนของอิกูชิ มีมูลค่าสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ด้วยความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของเขา เขาจึงได้ส่งจดหมายสารภาพไปยังประธานธนาคารและสุดท้ายถูกจับกุม
คนส่วนใหญ่อาจจำเรื่องราวนี้ไม่ได้แต่ย้อนไปเมื่อปี 1999 สงครามธุรกิจเสิร์ชเอ็นจินยังคงดุเดือดรุนแรงอยู่ ยักษ์ใหญ่ในเวลานั้นรวมถึง Yahoo!, Excite และ Altavista โดยที่ Google) มีอายุเพียงแค่ 3 ปีและยังคงไม่ได้มีส่วนแบ่งตลาดที่มากนัก แลรี เจ้าของ Google ในเวลานั้นเดินทางไปยัง Excite และเสนอขายเทคโนโลยีของ Google เป็นจำนวนเงินมูลค่า 750,000 ดอลลาร์แต่ Excite ปฏิเสธในข้อเสนอดังกล่าว ปัจจุบัน Excite ปิดกิจการณ์ไปแล้วขณะที่ Google (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ Alphabet) มีมูลค่า 777 พันล้านดอลลาร์
แล้วคุณล่ะ การตัดสินใจลงทุนที่เลวร้ายที่สุดของคุณคืออะไร? เล่าให้เราฟังได้ในความเห็นด้านล่างนี้
คุณแน่ใจหรือว่าคุณต้องการบล็อก %USER_NAME%?
เมื่อทำการบล็อก คุณและ %USER_NAME% จะไม่สามารถเห็นโพสต์ของแต่ละฝ่ายบนเว็บไซต์ Investing.com ได้
%USER_NAME% ได้ถูกเพิ่มเข้าไปใน Block List ของคุณแล้ว
เนื่องจากคุณเพิ่งยกเลิกการบล็อกบุคคลนี้ คุณต้องรอ 48 ชั่วโมงก่อนการบล็อกอีกครั้ง
ฉันรู้สึกว่าความคิดเห็นนี้
ขอบคุณ!
รายงานของคุณได้ถูกส่งไปยังผู้ดูแลบอร์ดของเราเพื่อการทบทวน
แสดงความคิดเห็น
เราสนับสนุนให้ท่านได้ใช้ช่องทางการแสดงความคิดเห็นนี้เพื่อสื่อสารสัมพันธ์กับผู้ใช้เว็บไซต์อื่นๆ เพื่อแลกเปลี่ยนในทัศนคติและสอบถามข้อสงสัยกับผู้เขียนและสอบถามซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตามเพื่อให้การสื่อสารสัมพันธ์นี้เป็นไปอย่างเรียบร้อยที่เราทุกคนต้องการและคาดหวังดังนี้กรุณาพึงระลึกในข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้:
ผู้ที่โพสต์เนื้อหาข้อความสแปมหรือใช้เว็บไซต์นี้ไปในทางผิดจะถูกลบรายชื่อทิ้งจากเว็บไซต์และถูกปิดกั้นการลงทะเบียนเป็นสมาชิกในอนาคตซึ่งเป็นไปตามดุลพินิจของเว็บไซต์ Investing.com