รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ถ้าดอกเบี้ยหยุดขึ้น … SET Index จะขึ้นแทน 

เผยแพร่ 27/09/2566 09:43

การปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นสหรัฐ 1.14 –1.57% น่าจะส่ง Sentiment เชิงลบ เข้าสู่ตลาดหุ้นบ้านเราเช้านี้ด้วย ทั้งนี้อาการที่อ่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐ เป็นตัว ชี้ให้เห็นว่าอยู่บน Valuation ที่ค่อนข้างแพงเห็นได้ว่า Market Earning Yield Gap ที่ติดลบ ส่วนปัจจัยที่ตลาดหุ้นบ้านเรารออยู่ในวันนี้ได้แก่ ผลการประชุม กนง. ว่า จะปรับขึ้น หรือ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หากประเมินจากปัจจัยแวดล้อมเราเห็น ว่าอยู่ในช่วงปลายของอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งสภาวะดังกล่าวจะเห็นความเห็นที่ ต่างมุมของสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจทั้งหลาย และก็พอเดาได้ว่ามติ กนง. ก็อาจจะ ไม่เป็นเอกฉันท์ไปในทางใดทางหนึ่ง ทั้งนี้ในมุมของ SET Index ทางที่ออกมาแล้ว ตีความเป็นบวกได้ ก็คือการคงอัตราดอกเบี้ย เพราะจะทำให้ Market Earning Yield Gap ของบ้านเรายังทรงตัวระดับสูง และยังเป็นการแสดงภาพทิศทางของ นโยบายการเงิน และ การคลัง ที่สอดคล้องกันในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

การหลุดระดับ 1500 จุดลงมาของ SET Index ถือเป็นสัญญญาณลบทาง Technical โดยวันนี้จะเห็นแนวรับถัดไปที่ 1486 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1505 จุด หุ้น Top Pickวันนี้เลือก CPF, TU และ SCGP

ปัจจัยกดดันให้ ตลาดหุ้นโลกลงแรง โดยเฉพาะสหรัฐ

วานนี้ตลาดหุ้นโลกค่อนข้างผันผวน โดย ตลาดหุ้นสหรัฐ (Nasdaq) ปรับตัวลง - 1.57% จากปัจจัยต่างๆ ดังนี้

1. ความกังวลการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยวานนี้มีการรายงาน ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 8.7% สู่ระดับ 675,000 ยูนิตในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่ ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 700,000 ยูนิต จากระดับ 739,000 ยูนิตในเดือน ก.ค. นอกจากนี้ยังมีดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 103.0 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และต่ำกว่าที่ตลาด คาดการณ์ที่ระดับ 105.5 จากระดับ 108.7 ในเดือนส.ค. ได้รับผลกระทบจาก ความกังวลเงินเฟ้อและดอกเบี้ยสหรัฐที่ยืนระดับสูง

2. ความกังวลสหรัฐมีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในภาวะที่เงินเฟ้อยังยืนระดับสูง โดย ตลาดคาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป ที่จะมีการรายงานในวันศุกร์นี้ ปรับตัว ขึ้น 3.5%YoY ในเดือนส.ค. จากระดับ 3.3%YoY ในเดือนก.ค. และดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 3.9%YoY ในเดือนส.ค. จากระดับ 4.2%YoY ในเดือนก.ค. รวมถึงผู้ว่าการ Fed ใน สาขาต่างๆ ก็ให้ความเห็นสนับสนุนให้Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หาก เงินเฟ้อยังคงไม่ชะลอตัวลง

3. ความวิตกเกี่ยวกับ Government Shutdown หรือ การปิดหน่วยงานของ รัฐบาลสหรัฐ ในวันที่ 1 ต.ค. นี้ ซึ่งประเด็นนี้มักกดดันให้ตลาดหุ้นผันผวนช่วง สั้นๆ เสมอ

และหากสังเกตจาก Valuation พบว่า ตลาดหุ้นสหรัฐมีผลต่างระหว่างผลตอบแทนใน ตลาดหุ้นกับตลาดตราสารหนี้ต่ำมาก คือ มี Market Earning Yield Gap (MEYG) เท่ากับ -0.42% ผิดกับตลาดหุ้นเอเชียรวมถึงไทยที่มีMEYG สูงกว่ามาก ส่งผลให้ ตลาดหุ้นสหรัฐมีโอกาสผันผวนกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ ในช่วงนี้

อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นโลกเผชิญกับปัจจัยลบมาตลอดเดือน ก.ย. ปรับตัวลงมา จน เห็นสัญญาณทางเทคนิคอย่าง RSI ของแต่ละดัชนีเริ่มเข้าใกล้เขต Oversold หรือต่ำ กว่า 30 ดังตารางทางด้านล่าง จึงคาดว่าการย่อตัวลงของดัชนีมีโอกาสลดน้อยลง บ้าง

ขณะที่ SET Index ปรับตัวลงมาแล้วกว่า 10.47%ytd จน RSI อยู่ที่ 32.9 เข้าใกล้เขต Oversold เช่นกัน และจากสถิติในอดีตย้อนหลัง 10 ปี เวลา RSI เข้าเขต Oversold ผลตอบแทนเฉลี่ยของ SET Index หลังจากนั้นในช่วง 1 – 5 วัน ดัชนีจะชะลอการ ปรับตัวลง และทยอยปรับตัวขึ้นได้ดีในระยะ 10 –20 วัน หลังจากนั้น

สรุปภายใต้ SET Index ที่ผันผวนมากและถูกปัจจัยภายนอกกดดัน แต่ย่อตัวลงมาจน มี PBV ต่ำอยู่ที่ 1.46 เท่า (ต่ำกว่า -1SD) และ RSI ใกล้เขต Oversold น่าจะเหมาะกับ การหาหุ้นสะสมเพื่อหวังผลในระยะกลางถึงยาว

ปัจจัยบวกในประเทศยังพอมี คาดช่วยหนุนหุ้นเฉพาะกลุ่ม

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

มาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ยังคงออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ครม. มีมติอนุมัติโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อย 3 ปี(ทั้งเงินต้น-ดอกเบี้ย) เริ่ม 1 ต.ค. นี้ โดยมีผู้ที่เข้าเกณฑ์โครงการฯ ราว 2.69 ล้านราย (64% ของลูกหนี้ ธกส. ทั้งหมด) ขณะเดียวกันในที่ประชุมยังเห็นชอบให้มีการพัฒนาศักยภาพลูกหนี้ ธ.ก.ส. โดยจัดอบรมเพื่อส่งเสริมฟื้นฟูการประกอบอาชีพอีกด้วย ซึ่งมาตราการดังกล่าวเชื่อ ว่าจะช่วยหนุนให้การบริโภคขยายตัวต่อเนื่อง รวมถึงเป็นบวกต่อกลุ่ม Non-Bank อาทิ BJC, CRC, JMT, JMART, MTC, SAWAD, TIDLOR

นอกจากนี้ยังมี Sentiment เชิงบวกจากภาพรวมการส่งออกไทยเดือน ส.ค. +2.6%YoY ซึ่งสูงกว่าตลาดคาดมากที่ -5.0% และพลิกกลับมาเป็นบวกครั้งแรกใน รอบ 11 เดือน สวนทางกับหลายๆ ประเทศในเอเชียที่ยังถดถอย เช่น อินโดนีเซีย (-21.2%YoY), มาเลเซีย (-21.2%YoY), จีน (-8.8%YoY), ฯลฯ สะท้อนเศรษฐกิจไทย ยังเดินหน้าต่อไปได้ ขณะที่การนำเข้าไทย ส.ค. -12.8%YoY ช่วยหนุนให้ดุลการค้า กลับมาเกินดุลที่ 360 ล้านเหรียญฯ

การส่งออกที่ขยายตัวหลักๆ มาจากสินค้าเกษตร (เช่น ผัก-ผลไม้สด แช่เย็น/แข็ง/แห้ง) และสินค้าอุตสาหกรรม (เช่น แผงวงจรไฟฟ้า รถยนต์ อุปกรณ์และชิ้นส่วน) เป็นบวกต่อ HANA, KCE, SAT, AH, STANLY, TU, CPF, NER

สรุป การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ที่ทยอยออกมาต่อเนื่อง โดยล่าสุดมี โครงการพักหนี้เกษตรกร 3 ปี ซึ่งเชื่อว่าช่วยหนุนให้การบริโภคขยายตัวมากขึ้น รวมถึง เป็นบวกต่อกลุ่ม Non-Bank นอกจากนี้บ้านเรายังมีปัจจัยบวกจากภาพรวมการ ส่งออกเดือน ส.ค. ที่พลิกกลับมาเป็นบวกและสูงกว่าคาดมาก โดยการส่งออกที่ ขยายตัวหลักๆ มาจากสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรม

วันนี้ ลุ้น กนง.คงหรือขึ้นดอกเบี้ย คาดเป็นปัจจัยที่ทำให้ SET ผัน ผวนช่วงเช้านี้

วันนี้ติดตามผลการประชุม กนง. เวลา 14.00 น. ซึ่ง Bloomberg Consensus กลับทิศ มุมมอง โดยคาด กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.25% ซึ่งมาจากนัก เศรษฐศาสตร์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเปลี่ยนมุมมองจากขึ้นดอกเบี้ย เป็นคง ดอกเบี้ย ซึ่งปัจจัยที่สนับสนุน คือ อัตราเงินเฟ้อของไทยทยอยลดลง โดยเดือนล่าสุดอยู่ ที่ระดับ +0.88%YoY(ต่ำกว่าเป้าหมายของ ธปท.) , เศรษฐกิจโลกและไทยยังไม่ได้ฟื้น ตัวมากนัก โดยเฉพาะไทยที่ระดับ GDP ยังไม่กลับยืนเหนือก่อนเกิด Covid-19, Real Interest ของไทยยังอยู่ระดับบวก 1.37% ไม่เหมือนฝั่งยุโรปที่ยังติดลบอยู่

ซึ่งนักลงทุนต่างเชื่อแนวทางนี้เช่นกัน สังเกตจาก Movement ของเม็ดเงินต่างชาติ โดย นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิพันธบัตรรัฐบาลอย่างต่อเนื่องจากเดือนที่แล้ว โดยขาย สุทธิรวมกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท(เดือนที่แล้วขายสุทธิ 5.5 หมื่นล้านบาท) ส่งผลให้ Yield Curve ของตราสารหนี้ไทยปรับขึ้นยกเส้นทั้งตราสารหนี้ระยะสั้น และยาว(ตั้งแต่ ต้นเดือน) อาทิ ช่วงอายุ 1 ปี ปรับขึ้น 26 Bps. อยู่ที่ระดับ 2.45%, ช่วงอายุ 3 ปี ปรับขึ้น 28 Bps. อยู่ที่ระดับ 2.63% และช่วงอายุ 10 ปี ปรับขึ้น 47 Bps. อยู่ที่ระดับ 3.24%

ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมักจำกัด Upside ของตลาดหุ้นไทยเสมอ โดยหากขึ้น ดอกเบี้ยอีก 25 Bps. Target SET ปลายปี 2566 มีโอกาสย่อตัวลง 71 จุดจากเดิม 1595 จุด สู่ระดับ 1524 จุด อย่างไรก็ตาม SET Index ตอบรับมาในระดับหนึ่งแล้ว จาก ที่ SET ปรับตัวลงราว 82 จุด จากจุดยอดที่ 1579 จุด ในช่วงปลายเดือน ส.ค.66- ปัจจุบัน

สรุป ผลการประชุม กนง.วันนี้ จะเป็นตัวกำหนดทิศทางตลาดหุ้นไทยในช่วง 1-3 เดือน ข้างหน้า ซึ่งหากมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 25 Bps. จะเป็นการบั่นทอน Target SET อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยวันนี้มองกรอบการเคลื่อนไหวของ SET Index ไว้ที่ 1486 – 1505 จุด

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย