Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,575-1,605 จุด ตลาดหุ้นไทยกลับมา มี Sentiment เชิงบวกหลัง ครม. ยังเห็นชอบการจัดหาวัคซีน ซิโนแวก ไฟเซอร์ และโมเดอร์นา เป็นวัคซีนหลัก และวัคซีนทางเลือก มากขึ้น ทําให้ SET วานนี้ (6 ก.ค.) ปรับเพิ่มทดสอบแนวต้าน ระหว่างวันที่เราประเมินไว้ที่ 1,595 จุด แต่ SET ยังคงมีแรงขายทํากําไรต่อเนื่อง ประเด็นที่น่าติดตามอยู่ ที่การเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) วันนี้ (7 ก.ค.) โดยประเด็นที่น่าสนใจอยู่ ที่ การส่งสัญญาณของเฟด ที่จะยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของ SET วันนี้ (7 ก.ค.) ปัจจัยกดดันยังคงอยู่ที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ จากจํานวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น ระดับ 6 พันรายต่อวัน โดยจํานวนผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้น อีกทั้งราคา น้ํามันดิบที่ปรับลดลงเมื่อคืนที่ผ่านมา จะยังส่งผลให้มีแรงขายทํากําไรหุ้นในกลุ่มพลังงาน กลยุทธ์ การลงทุนเราแนะนํา Selective buy หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ที่เราแนะนําก่อนหน้านี้ ได้แก่ หุ้นใน กลุ่มที่ถูกคาดหมายผลประกอบการ 2Q64 แข็งแกร่ง หุ้นที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาท และหุ้นในกลุ่ม ส่งออกจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว เราเลือก STA ASIAN TU HANA KCE SAT AH MEGA NER EPG และ SMPC ขณะที่หุ้นในกลุ่ม Oil play เราแนะนํา ให้ทยอยรับเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวจากความฝัน ผวนของราคาน้ํามันดิบในระยะสั้น ราคาน้ํามันผันผวน กระทบราคาหุ้นกลุ่ม Oil play ระยะสั้น - สัญญาน้ํามันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 1.79 เหรียญ (-2.4%) จากความไม่แน่นอนของภาพรวมเศรษฐกิจ และผลกระทบจากการประชุม OPEC+ ที่ ไม่สามารถได้ข้อสรุป รวมทั้งการเลื่อนประชุมออกไปแบบไม่มีกําหนด จากความเห็นที่แตกต่างของ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) โดยซาอุฯ เสนอปรับเพิ่มกําลังผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่ ส.ค. ถึง ธ.ค.64 เฉลี่ยเดือนละ 400,000 บาร์เรลต่อวัน รวมทั้งเสนอขยายมาตรการการปรับลดกําลัง ผลิต ไปถึงปลายปี 65 แต่ UAE ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว อย่างไรก็ตาม กําลังผลิตปัจจุบันจะยังคง ต่อเนื่องถึงเดือน ส.ค. 64 ทําให้เรามองเรื่องของแรงกดดันด้านอุปทานไม่มาก ขณะที่ความต้องการใช้ น้ํามันดิบปรับเพิ่ม แม้ปัจจุบันจะเริ่มมีสัญญาณความผันผวนของเศรษฐกิจ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหลายประเทศ ทําให้เรายังคงชอบหุ้นในกลุ่ม Oil play (PTTEP และ PTTGC) โดยกลยุทธ์การลงทุน เราให้น้ําหนัก เก็งกําไร สิงค์โปร์ ตั้งเป้าเปิดประเทศ ต.ค. 64 หนุนภาคส่งออก และการท่องเที่ยวในภูมิภาค - CNBC รายงานว่า สิงค์โปร์ มีแผนเปิดประเทศ ต.ค. 64 โดยก่อนการเปิดประเทศ สิงค์โปร์ ตั้งเป้าหมายการดําเนินการฉีดวีคซีน ให้ได้ 2 ใน 3 ของประเทศ ก่อน 9 ส.ค. (วันชาติสิงคโปร์) โดยเร่งอัตราการฉีดวัคซีนเฉลี่ยต่อวันจากปัจจุบันที่ 45,000 โดส เป็น 80,000 โดส และตั้งเป้าหมายการดําเนินการฉีดวัคซีนให้ประชาชน 75% ของประเทศ ก่อน ต.ค. 64 ก่อนการเปิดประเทศรับชาวต่างชาติ ทั้งสําหรับการท่องเที่ยว และการทําธุรกิจ ปัจจุบัน สิงค์โปร์ดําเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชากรในประเทศคิดเป็น 37% สําหรับโดสแรก ช่วยลดอัตราผู้ป่วย และ อัตราเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 เรามีมุมมองเป็นบวก โดยเชื่อว่าปัจจัยบวกดังกล่าวจะทําให้เกิด กิจกรรมระหว่างประเทศ ทั้งการส่งออก การท่องเที่ยว และการดําเนินธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นในช่วง 3-6 เดือน ข้างหน้า เรามองเป็นปัจจัยบวกทางอ้อมต่อหุ้นในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ได้แก่ AOT (BK:AOT) BAFS และ AAV
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ ในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 60.1 จุด ลดลงจากเดือน พ.ค. ที่ระดับ 64.0 จุด และต่ํากว่าที่ Market Consensus คาดไว้ที่ 63.5 จุด / ดัชนีการจ้างงานในภาคบริการในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 49.3 จุด ลดลงจากเดือน พ.ค. อยู่ที่ 55.3 จุด ขณะที่ดัชนี คําสั่งซื้อใหม่ในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 62.1 จุด ลดลงจากเดือน พ.ค. ที่อยู่ที่ 63.9 จุด การชะลอตัวของดัชนีภาค บริการสหรัฐได้รับผลกระทบจากการจ้างงานที่หดตัว ติดตามรายงานตัวเลขทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญวันนี้ – รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของเยอรมนี ได้แก่ ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม (German Industrial Production) เดือน พ.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 0.5%MoM) / รายงานเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ตําแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS (JOLTs Job Openings) เดือน พ.ค. (คาดเพิ่มขึ้น 8.3 ล้านตําแหน่ง) และรายงานสินค้าคงคลังน้ํามันดิบประจําสัปดาห์ (Crude Oil Inventories) มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET Index วันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,575-1,605 จุด หุ้นแนะนําทาง เทคนิควันนี้ได้แก่ DCC HMPRO MEGA CRC และ TISCO
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities