Omni Channel คือพระเอก
รุกยอดขายผ่าน Ecommerce/Omni Channel MC เดินหน้าขายสินค้าผ่าน Omni Channel และ E-commerce หลังผลกระทบจาก COVID-19 ส่งผลต่อการปิดสาขากว่า 90% ซึ่งเป็นความต่อเนื่องจากเดิมที่รุกตลาด Online ก่อนหน้า MC ใช้ช่วงเวลาดังกล่าว สร้างยอดขายสินค้าผ่าน Online เติบโตเพิ่ม โดยใน 3Q63 มียอดขายเติบโต 75.8%YoY และมีสัดส่วน รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 10% จากรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากเดิมใน 2Q63 ที่มีสัดส่วน 8% และ 5% ใน 3Q62 ทั้งนี้จากการล็อกดาวน์บริษัทคาดยอดขาย Onlineใน 4Q63 (เดือน เม.ย 63 – มิ.ย. 63) จะอยู่ราว 50% ของ ยอดขายรวมของ 4Q62
ปรับกลยุทธ์เพิ่มประเภทสินค้า ผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้มีผลกระทบทั้งจากการปิดสาขาและสินค้าหลักของ MC ที่มีความจำเป็นน้อยลงเนื่องจากเป็นสินค้าเสื้อผ้าและแฟชั่น ส่งผลให้MC มีการปรับกลยุทธ์ขายสินค้าที่มีความต้องการบริโภคสูงตามสถานการณ์ เช่น หน้ากากผ้า / หมวกมีFace Shield รวมถึงสินค้าอื่น ๆ ที่ใช้ป้องกัน เช่น เจลอนามัย โดยใช้วิธีออกแบบที่แตกต่างเป็นจุดขาย ซึ่งค่อนข้างได้รับผลตอบรับดีทังนี้บริษัทได้กระตุ้นยอดขาย Online ผ่านหลากหลายวิธีทั้งการซื้อ Google (NASDAQ:GOOGL) Ads เพื่อให้ติดหน้าแรกการค้นหา, การ Live ขาย สินค้า, สร้าง Local community page บนเครือข่าย Onlineแต่ละพื้นที่ฯลฯ นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรนำการนำสินค้าภายนอกมาขายในช่องทางจำหน่ายของ Mc Group และในอนาคตอยู ระหว่างคัดสรรสินค้าใหม่ๆเพิ่มภายใต้ช่องทางการจัดจำหน่ายของ MC
กำไรอ่อนแอหลังล็อกดาวน์กลางเดือนมี.ค บริษัทรายงานกำไรปกติที่90 ล้านบาท (-75.5% QoQ,- 35.5% YoY) ต่ำกว่าที่เราคาด 30% ผลกระทบจากรายได้ ใน 3Q63 อยู่ที่ 744 ล้านบาท (-34.3% QoQ, -14.3% YoY) จากการประกาศล็อกดาวน์กลางเดือน มี.ค. ส่งผลให้พื้นที่ขายในห้างสรรพสินค้า รวมถึงซูเปอร์สโตร์ต้องปิดให้บริการชั่วคราว เห็นได้จาก SSSG ใน 3Q63อยู่ที่ -26% YoY ขณะที่ 9 เดือน SSSG -4.8% สะท้อนไปยัง SSSG 4Q63 ที่จะติดลบสูงสอดคล้องกับผลประกอบการ4Q63 ที่คาดเป็นไตรมาสที่มีอ่อนแอสุด กระทบหนักจากรายได้ลดแต่ยังคงระดับมาร์จิ้นยังทำได้ดีส่วนหนึ่งประโยชน์หน้ากากผ้าอนามัยที่มีมาร์จิ้นสูงซึ่งได้รับการตอบรับดี
ปรับราคาเป้าหมายเป็น 9 บาท แนะนำ “เก็งกำไร “ ผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้ส่งผลทางตรงต่อผลประกอบการและต่อเนื่องไปยังภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอ ตัว เรามีการปรับประมาณการกำไรสุทธิของปี2563 ลง 19.2% เป็น 429 ล้านบาท และปี 2564 ลง 6.3% เป็ น 533 ล้านบาทตามลำดับ ปรับราคาเหมาะสมปี2563 เป็น 9 บาท (อ้างอิง WACC ที่ 8.86% และ Terminal growth ที่ 1%) จากเดิม 10 บาท เรามองว่าในปี2564จะเห็นการฟื้นตัวของผลประกอบการ หลังผ่านจุดอ่อนแอใน 3Q63และ4Q63เรามอง MC มีนโยบายรองรับการปรับตัวต่อสถานการณ์COVID19 ได้ดีขณะเดียวกันมีแผนเชิงรุกขยายฐานลูกค้าผ่าน Online ในหลากหลายรูปแบบจะเห็นยอดขายที่ฟื้นตัวขึ้น ขณะเดียวกัน MC มีจุดเด่นจากสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง เป็น Net cash และ2) การเป็ น Dividend Stock ที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลต่อเนื่องเฉลี่ยราว7-8%
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Yuanta Securities