รู้จังหวะที่ดีที่สุดในการเข้าซื้อหรือขายหุ้นด้วยมูลค่ายุติธรรม (Fair Value) จาก InvestingPro

การรู้จังหวะที่เหมาะสมในการเข้าซื้อหรือขายหุ้นเป็นคำถามที่มีมูลค่าหลักล้าน ในฐานะนักลงทุนรายย่อย คุณอาจคุ้นเคยกับขั้นตอนการประเมินการลงทุน แต่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำการตัดสินใจ - คุณกังวลว่าคุณกำลังจะซื้อแพงหรือขายถูกไปหรือไม่ 

แม้ว่ามีโมเดลหรือแบบจำลองจำนวนมากมายที่ชี้แนะมูลค่ายุติธรรม (fair value) ที่อาจเป็นไปได้ของหุ้นก็ตาม แต่โดยปกติมักจะมีความซับซ้อนและเข้าถึงข้อมูลได้ยาก คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคุณสามารถไว้ใจโมเดลหรือแบบจำลองดังกล่าวนั้นได้หากคุณไม่รู้แน่ชัดว่ามีอะไร “ในกอไผ่” ซึ่งกำหนดทิศทางการตัดสินใจของคุณว่าหุ้นมีมูลค่าสูงหรือต่ำกว่าความเป็นจริง

มูลค่ายุติธรรม (Fair Value) ของ InvestingPro คือเครื่องมือที่ได้ออกแบบมาเพื่อประมาณการมูลค่าแท้จริงของหุ้น ขจัดปัญหาความซับซ้อนที่มักจะบดบังการตัดสินใจในระยะสุดท้ายก่อนตัดสินใจลงทุน และเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจระยะยาวของเราในการเสริมศักยภาพให้กับนักลงทุนรายย่อย ไม่ว่าคุณเพียงต้องการทราบมูลค่ายุติธรรมปัจจุบันของหุ้นอย่างรวดเร็ว หรือดับเบิลคลิกเพื่อดูรายละเอียดและข้อมูลจำเพาะของวิธีการทำงาน นี่เป็นวิธีที่ง่ายและโปร่งใสสำหรับคุณในการได้รับข้อมูลเชิงลึกที่แท้จริงสำหรับคำถามที่ค้างคาใจของคุณ: "ฉันควรซื้อหุ้นตัวนี้ไหม? ฉันควรขายหุ้นนี้หรือเปล่า?"

เรามาเริ่มกันด้วยตัวอย่างล่าสุดของประมาณการมูลค่ายุติธรรมของเรา:

Qualcomm (NASDAQ:QCOM) เป็นบริษัทระดับโลกรายหนึ่งที่มุ่งเน้นการสร้างและจำหน่ายเทคโนโลยีที่จำเป็นสำหรับอุตสาหกรรมระบบเครือข่ายไร้สาย เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 ราคาตลาดของหุ้นบริษัทอยู่ที่ $106.69 ในช่วงเวลาดังกล่าว ฟีเจอร์มูลค่ายุติธรรม (Fair Value) ของ InvestingPro เน้นให้เห็นชัดเจนว่าหุ้นมีราคาต่ำกว่ามูลค่าแท้จริงและมีค่าอัพไซด์ (upside) อยู่ที่ +65.27%, ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาหุ้นที่น่าจะเป็นไปได้คืออยู่ที่ $171.68 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหุ้นบริษัทแห่งนี้เป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมสำหรับการลงทุน

เมื่อย้อนไปดูข้อมูลในวันที่ 16 เมษายน 2567 และราคาหุ้นของบริษัท Qualcomm ได้พุ่งขึ้น +62.73% อยู่ที่ราคา $173.62 ซึ่งใกล้เคียงกับค่าประมาณการของเรา และหุ้นบริษัท QCOM เป็นเพียงหนึ่งในตัวอย่างหุ้นจำนวนมากที่ได้แสดงถึงศักยภาพของหุ้นและให้ผลตอบแทนมหาศาลสำหรับนักลงทุน

เกณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรมทั่วไปสำหรับมูลค่ายุติธรรมแสดงให้เห็นว่าโดยทั่วไปจะใช้เวลา 12 ถึง 18 เดือนก่อนที่ตลาดจะแก้ไขความคลาดเคลื่อนในการประมาณค่าหุ้นของตนได้ ดังนั้นตัวอย่างข้างต้นจึงใช้กรอบเวลาเดียวกันในการที่จะดูว่าราคาหุ้นมีปฏิกิริยาอย่างไร

แต่ว่า …เครื่องมือนี้ใช้งานอย่างไร?

ด้วยการใช้วิธีการประเมินมูลค่าหุ้นที่ได้รับการยอมรับและนิยมกันแพร่หลายในแวดวงอุตสาหกรรมการเงินนี้ เครื่องมือ มูลค่ายุติธรรม (Fair Value) ของ InvestingPro จึงให้ค่าประมาณการมูลค่ายุติธรรมที่แม่นยำและครอบคลุมมากที่สุดในตลาดสำหรับการหามูลค่าที่แท้จริงของหุ้น

ข้อมูลสรุปมูลค่ายุติธรรมของเราสำหรับหุ้นแต่ละตัวจะอิงตาม ค่าเฉลี่ยแบบธรรมดาที่ได้จากแบบจำลองการประเมินมูลค่าหุ้นจำนวน 17 แบบจำลองที่ยึดวิธีการเบื้องต้นสามวิธีการเป็นรากฐาน ได้แก่ Discounted Cash Flow (DCF) (วิธีคิดลดกระแสเงินสด), Comparable Company Analysis Models (แบบจำลองการวิเคราะห์บริษัทคู่แข่ง), และ Dividend Model (แบบจำลองเงินปันผล) 

แต่ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจหมวดหมู่โมเดลหรือแบบจำลองต่างๆ กันก่อน:

1. Discounted Cash Flow (DCF) เป็นวิธีการประเมินมูลค่าหุ้นมูลค่าของบริษัทเท่ากับมูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดในอนาคตของบริษัท วิธีการนี้ทำให้นักลงทุนสามารถประเมินความน่าดึงดูดใจของโอกาสการลงทุนได้โดยการพิจารณาผลตอบแทนที่คาดหวังเทียบกับราคาตลาดในปัจจุบันของหุ้น หากเปรียบเทียบแนวคิดมูลค่ายุติธรรมของหุ้นเหมือนกับการซื้อบ้านหลังหนึ่ง เราจะสามารถหามูลค่าของบริษัทได้โดยดูจากกระแสเงินสด (กำไร) จำนวนมากน้อยเพียงใดที่บริษัทสามารถทำได้ซึ่งเทียบเคียงได้กับค่าเช่าจำนวนมากน้อยเพียงใดที่คุณสามารถเก็บค่าเช่าได้จากอสังหาริมทรัพย์หรือบ้านดังกล่าว

แบบจำลอง DCF มีหลากหลายแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับวิธีการวิเคราะห์กระแสเงินสดในอนาคตที่หลากหลาย เช่น วิธีการที่อิงตามรายได้ การเติบโต หรือ EBITDA และกรอบเวลาในการพิจารณาที่แตกต่างกัน เช่น 5 ปีหรือ 10 ปี

มูลค่ายุติธรรม (Fair Value) ของเรายังใช้แบบจำลอง Earnings Power Value ซึ่งใกล้เคียงกันกับแบบจำลอง DCF แต่จะอิงตามข้อมูลย้อนหลังและไม่ได้อาศัยการพยากรณ์ล่วงหน้ามากนัก

2. Comparable Company Analysis Models (แบบจำลองการวิเคราะห์บริษัทเทียบกับคู่แข่ง) (นอกจากนี้ยังเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าแบบจำลอง Multiplier) จะเกี่ยวข้องกับตัวชี้วัดทางการเงินบางอย่าง เช่น กำไรหรือรายได้และคูณกับปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการประเมินมูลค่าหุ้น ตัวคูณเหล่านี้จะให้วิธีการที่รวดเร็วในการประเมินมูลค่าบริษัทเชิงสัมพัทธ์โดยเปรียบเทียบกับบริษัทคู่แข่งหรือตลาดในวงกว้าง หากคุณคิดว่าบริษัทแห่งใดแห่งหนึ่งกำลังจะถูกซื้อกิจการและต้องการเข้าใจว่ามูลค่าของบริษัทภายใต้เจ้าของบริษัทใหม่นี้ คุณสามารถใช้โมเดลหรือแบบจำลองนี้ช่วยคุณประมาณค่าดังกล่าวได้

ตัวอย่าง เช่น บริษัท Microsoft ซื้อกิจการของบริษัท LinkedIn เป็นเงินจำนวน 26.2 พันล้านดอลลาร์ในปี 2016 ณ ช่วงเวลาการซื้อกิจการนั้น รายได้ของบริษัท LinkedIn มีรายได้ประมาณ 3 พันล้านดอลลาร์ซึ่งค่าตัวคูณมูลค่ากิจการ/รายได้ (EV/Revenue multiple) อยู่ที่ประมาณ 8.7 เท่า

โดยปกติ มูลค่ายุติธรรม (Fair Value) ของ InvestingPro มักจะเลือกบริษัทคู่แข่งที่เกี่ยวข้องให้กับคุณแต่สมมติว่าคุณต้องการดูบริษัท TSLA ในแง่ของการประเมินมูลค่าบริษัทยานยนต์และไม่ใช่การประเมินมูลค่าบริษัทเทคโนโลยี คุณอาจต้องการลบบริษัท Virgin Galactic, Amazon และ Apple ออก แล้วเปลี่ยนบริษัทคู่แข่งไปเป็นบริษัทต่าง ๆ อาทิ บริษัท Toyota (TM), Volkswagen (VWAGY) และ Nio (NIO) ก็ได้ ลองเข้าไปดู Benchmark Editor ของบริษัท Tesla (NASDAQ:TSLA)

3. Dividend Discount Model (DDM) เป็นวิธีการประเมินมูลค่าหุ้นของบริษัทโดยใช้เงินปันผลที่คาดการณ์ไว้และคิดหักลดมูลค่ากลับไปเป็นมูลค่าปัจจุบัน วิธีการการนี้อิงตามสมมติฐานที่ว่าหุ้นมีมูลค่าเท่ากับมูลค่าปัจจุบันของเงินปันผลในอนาคตทั้งหมดของบริษัท วิธีการ DDM มีสองรูปแบบหลัก ได้แก่ Stable Growth DDM (ซึ่งสมมติฐานว่าเงินปันผลจะเติบโตในอัตราคงที่ไปเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง) และอีกวิธีการหนึ่งที่ซับซ้อนมากกว่า ก็คือ Multi-Stage DDM (ซึ่งอัตราการเติบโตจะแตกต่างกัน ณ ช่วงระยะที่ต่างกันในช่วงชีวิตของบริษัท)

การกำหนดค่าสำหรับแบบจำลองแต่ละรายการจากจำนวน 17 รายการในหมวดหมู่ต่าง ๆ ข้างต้นมีลักษณะโปร่งใสอย่างเต็มที่ กล่าวคือ คุณสามารถดูวิธีการคำนวณมูลค่าหุ้นได้อย่างชัดเจน, ปรับแต่งการกำหนดค่าได้ตามความต้องการของคุณได้ และแม้แต่ส่งออกไฟล์แบบจำลองนั้นไปยังไฟล์ Excel ของคุณเองเพื่อการทำงานแบบออฟไลน์ได้

ความโปร่งใสสร้างความมั่นใจ

แต่ละแบบจำลองได้รับการตรวจสอบความถูกต้องสำหรับแต่ละหุ้น และในกรณีที่เราไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าสมมติฐานนั้นถูกต้อง แบบจำลองที่เป็นปัญหานี้จะถูกลบออกโดยอัตโนมัติเพื่อให้คุณได้รับค่าที่เชื่อถือได้

หมวดหมู่ธุรกิจบางหมวดหมู่ไม่สามารถประเมินด้วยแบบจำลองบางอย่างได้ และมูลค่ายุติธรรมของ InvestingPro จะจับคู่แบบจำลองที่เกี่ยวข้องเข้ากับบริษัทที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่าง เช่น ธนาคารไม่สามารถประเมินโดยแบบจำลอง DCF ได้ เนื่องจากการดำเนินการด้านกระแสเงินสดที่เฉพาะไม่เหมือนใครของธนาคาร อุตสาหกรรมอีกอย่างหนึ่งที่โดดเด่นคือทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) อุตสาหกรรมนี้จะใช้แบบจำลองมูลค่ายุติธรรมที่ไม่เหมือนใครโดยพิจารณาจากตัวคูณ Price to Funds From Operations (P/FFO) Multiples เป็นหลัก คุณสามารถดูตัวอย่างนี้ได้ในบริษัท Prologis, Inc. (NYSE:PLD)

เพื่อช่วยให้คุณมีความมั่นใจและความไว้วางใจในการใช้มูลค่ายุติธรรม ผลลัพธ์แต่ละรายการจะมาพร้อมกับระดับความไม่แน่นอน (uncertainty level) โดยอิงจากการพิจารณาในหลายประเด็น เช่น ความผันผวนของราคาหุ้นของบริษัท ความสามารถในการทำกำไร และจำนวนแบบจำลองที่มีอยู่

หากหนึ่งใน 17 แบบจำลองให้ราคาหุ้นที่แตกต่างจากตลาดอย่างมีนัยสำคัญ (เช่น ราคาที่สูงกว่าราคาตลาดปัจจุบัน 100% หรือต่ำกว่าราคาตลาดปัจจุบัน 60%) ราคาดังกล่าวก็อาจถูกแยกออกจากการวิเคราะห์มูลค่ายุติธรรมของเราเนื่องจากค่าความน่าเชื่อถือต่ำ อย่างไรก็ตาม แบบจำลองการประเมินมูลค่าหุ้นเหล่านี้ยังคงพร้อมให้คุณเปิดใช้งานได้อีกครั้งตามที่คุณเลือก อีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่แสดงแบบจำลองการประเมินมูลค่ายุติธรรมก็อาจเนื่องจากมีข้อมูลไม่เพียงพอ ซึ่งมักเกิดขึ้นกับบริษัทที่เพิ่งเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และยังไม่ได้เผยแพร่เอกสารรายงานทางการเงินของตน

อินเทอร์เฟซที่อ่านง่ายและข้อมูลเชิงลึกที่อิงจากข้อมูลดิบทำให้เครื่องมือนี้มีประสิทธิภาพอย่างเหลือเชื่อในการปกป้องนักลงทุนรายย่อยจากการซื้อในราคาสูงและขายในราคาต่ำ คุณจะเข้าใจอย่างชัดเจนในวิธีการคำนวณของเราเพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบแบบจำลองและปรับเปลี่ยนตามความต้องการของคุณได้ การศึกษาพิจารณาในข้อมูลอินพุต (inputs) เหล่านี้ (ที่ได้เน้นด้วยสีน้ำเงิน) จะทำให้คุณเข้าใจการคาดการณ์และการยอมรับความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น

ใช้งานเครื่องมือ มูลค่ายุติธรรม (Fair Value) ของ InvestingPro อย่างคุ้มค่า

การใช้งานเครื่องมือ มูลค่ายุติธรรม (Fair Value) ที่มักพบบ่อยที่สุดอย่างหนึ่งก็คือการ เฝ้าติดตามหุ้นในวอชท์ลิสต์ของคุณ เพื่อที่จะทราบว่าหุ้นดังกล่าวมีราคาต่ำหรือสูงกว่ามูลค่าแท้จริงหรือไม่และเมื่อใด เพียงแค่เพิ่มหุ้นที่คุณสนใจเข้าไปในรายการหุ้นที่คุณเฝ้าติดตาม คุณก็จะไม่เจอกับการขาดทุนที่สามารถหลีกเลี่ยงได้หรือพลาดโอกาสการทำกำไรอีกครั้ง 

เคสการใช้งานยอดนิยมอีกอย่างหนึ่งก็คือ ค้นหาหุ้นตัวใหม่ที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าแท้จริง ที่คุณอาจไม่คุ้นเคย ใช้ฟีเจอร์ Strong Upside Screener (ตัวคัดกรองหุ้นที่มีอัพไซด์สูง) แบบกำหนดไว้ล่วงหน้าของเราเพื่อสำรวจหุ้นต่าง ๆ ในตลาดที่มีโอกาสอัพไซด์ในระดับตั้งแต่ +10 % - 100% โดยพิจารณาราคาตลาดปัจจุบันของหุ้นเทียบกับการประมาณการมูลค่ายุติธรรมของหุ้น (Fair Value)

“ข้อจำกัดด้านเวลามักจะทำให้ไม่สามารถติดตามผลการดำเนินงานของหุ้นแต่ละตัวอย่างใกล้ชิดได้ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเสี่ยงต่อการขาดทุนซึ่งการขาดทุนนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ เครื่องมือมูลค่ายุติธรรม (Fair Value) ของเราให้โซลูชั่นหนึ่ง นั่นก็คือ —ให้ภาพรวมที่รวดเร็ว เชื่อถือได้ และภาพรวมเกี่ยวกับมูลค่ายุติธรรมของหุ้น ด้วยการใช้เครื่องมือนี้ นักลงทุนจะได้รับข้อมูลเชิงลึกทันทีว่าหุ้นมีราคาต่ำกว่าหรือมีมูลค่าสูงกว่ามูลค่าแท้จริง หรืออยู่ในราคาที่ยุติธรรมแล้ว ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลโดยไม่จำเป็นต้องเฝ้าติดตามหุ้นอย่างต่อเนื่อง” Andy Pai รองประธานฝ่ายสมัครสมาชิก X ที่ Investing.com ได้กล่าวไว้

สรุป

ไม่ว่าคุณกำลังมองหาโอกาสในการลงทุนหรือเพียงเพื่อเฝ้าติดตามสถานะพอร์ตการลงทุนของคุณ มูลค่ายุติธรรม (Fair Value) ของ InvestingPro จะช่วยให้คุณทราบเวลาที่เหมาะสมในการซื้อหรือขายหุ้น ลดความเสี่ยงของการขาดทุนที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และเพิ่มผลกำไรที่เป็นไปได้สูงสุด

เข้าถึงมูลค่ายุติธรรม (Fair Value) ได้ทั้งบนเว็บไซต์ Investing.com และแอปมือถือของ Investing.com พร้อมด้วยการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมทั้งหมดที่เป็นส่วนหนึ่งของสมาชิก InvestingPro

สมัครสมาชิกเลยตอนนี้