รับส่วนลด 40%
🔥 กลยุทธ์การหุ้นคัดเลือกโดย AI ของเรา หุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่ ทะยานขึ้น +7.1% ในเดือน พฤษภาคม เข้าเทรดขณะหุ้นกำลังมาแรงรับส่วนลด 40%

เตรียมรับมือความผันผวน ในสัปดาห์ การประชุมเฟด และข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ

เผยแพร่ 29/04/2567 08:27
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้เล่นในตลาดคลายกังวลต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดลงบ้าง หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ได้ออกมาดีกว่าคาดไปทั้งหมด 
  • ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ ผลการประชุม FOMC ของเฟด และรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ เช่น ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) เป็นต้น
  • เงินดอลลาร์อาจแข็งค่าขึ้นได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด และเฟดเริ่มส่งสัญญาณว่ามีโอกาส “ขึ้น” ดอกเบี้ยได้ ถ้าจำเป็น ทั้งนี้ เงินดอลลาร์ก็อาจพอได้แรงหนุนบ้าง หากเงินเยนญี่ปุ่นยังอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ในส่วนของค่าเงินบาท เรามองว่า โมเมนตัมฝั่งอ่อนค่าได้ชะลอลง แต่ต้องจับตาทิศทางเงินดอลลาร์ที่อาจยังคงกดดันเงินบาทได้ ส่วนโฟลว์จ่ายปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติราว 1.2 หมื่นล้านบาท) ยังคงเป็นปัจจัยกดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้ ส่วนฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติก็อาจทยอยกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทยได้บ้าง ลดแรงกดดันต่อเงินบาท ทั้งนี้ ควรจับตาทิศทางราคาทองคำ และค่าเงินเยนญี่ปุ่น (ที่อาจผันผวนหนัก หากทางการญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงค่าเงินได้จริง ตามที่ตลาดกังวล)
  • มองกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้
    36.50-37.25
    บาท/ดอลลาร์
  • มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

    • ฝั่งสหรัฐฯไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ผลการประชุม FOMC ของเฟด ซึ่งเราคาดว่า เฟดจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 5.25%-5.50% ทว่า เฟดอาจมีการสื่อสารในโทน Hawkish มากขึ้น เช่น ย้ำจุดยืนไม่รีบลดดอกเบี้ย จนกว่าจะมั่นใจว่าคุมเงินเฟ้อได้สำเร็จ ซึ่งภาพดังกล่าวอาจไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินมากนัก เนื่องจากเป็นสิ่งที่ผู้เล่นในตลาดได้รับรู้ไปมากแล้ว (ล่าสุด ตลาดมองเฟดมีโอกาสเพียง 37% ในการลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง) แต่ต้องระวังความผันผวนในตลาดการเงินที่อาจสูงขึ้น หากเฟดส่งสัญญาณว่า พร้อมขึ้นดอกเบี้ยได้ ถ้าจำเป็น อนึ่ง เรามองว่า ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินได้พอสมควรในสัปดาห์นี้ คือ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ ทั้ง ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตและภาคการบริการ โดย ISM (Manufacturing and Services PMIs) เดือนเมษายน รวมถึง รายงานข้อมูลตลาดแรงงาน ซึ่งผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น ยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรม (Nonfarm Payrolls) อัตราการเติบโตของค่าจ้าง (Average Hourly Earnings) และอัตราการว่างงาน (Unemployment Rate) นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2024 โดยเฉพาะบรรดาบริษัทเทคฯ ใหญ่ และกลุ่ม Semiconductor ซึ่งผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังว่า ผลประกอบการของบริษัทดังกล่าวอาจออกมาสดใส ตามอานิสงส์ AI Boom
    • ฝั่งยุโรปผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้น รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซน และถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประเมินแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ ECB โดยล่าสุด ผู้เล่นในตลาดประเมินว่า มีโอกาสราว 73% ที่ ECB จะเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิถุนายน (มีโอกาส 66% ที่จะลดดอกเบี้ยราว 3 ครั้ง ในปีนี้) โดยหากอัตราเงินเฟ้อยูโรโซนชะลอลงมากกว่าคาด ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสการลดดอกเบี้ยดังกล่าวของ ECB ได้ ซึ่งอาจส่งผลให้เงินยูโร (EUR) ผันผวนอ่อนค่าลงได้บ้าง
    • ฝั่งเอเชียผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการของจีน ในเดือนเมษายน ซึ่งหากดัชนีดังกล่าวยังคงสูงกว่าระดับ 50 จุด ก็จะสะท้อนภาพการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจจีน ทำให้ผู้เล่นในตลาดอาจเริ่มมีมุมมองเชิงบวกต่อสินทรัพย์จีนมากขึ้น ซึ่งพอจะช่วยลดแรงกดดันต่อเงินหยวนจีน (CNY) ได้บ้าง ทั้งนี้ เรามองว่า ควรเฝ้าระวังความเสี่ยงที่ทางการญี่ปุ่นอาจเข้าแทรกแซงค่าเงิน หลังค่าเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ได้ผันผวนอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ทำสถิติใหม่ในรอบหลายสิบปี โดยเราประเมินว่า ทางการญี่ปุ่นอาจเพียงรอจังหวะที่เหมาะสม เช่น สภาพคล่องและปริมาณการทำธุรกรรมในตลาดที่เบาบางลง (ซึ่งช่วงนี้ก็เป็นวันหยุดยาว Golden Week ของทางญี่ปุ่น) รวมถึงจังหวะที่ธีม US Exceptionalism เริ่มเปลี่ยนไปบ้าง จนทำให้เงินดอลลาร์เริ่มแกว่งตัว sideways หรือย่อลง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาด
    • ฝั่งไทยเราประเมินว่า โฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติที่จะสูงราว 1.2 หมื่นล้านบาทในสัปดาห์นี้ อาจเป็นปัจจัยที่กดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้ ทั้งนี้ ควรจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ โดยเฉพาะ ยอดการส่งออก-นำเข้า ดัชนี PMI ภาคการผลิต รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ ซึ่งหากข้อมูลดังกล่าวสะท้อนการฟื้นตัวที่ดีขึ้นของเศรษฐกิจ ก็อาจช่วยหนุนให้นักลงทุนต่างชาติทยอยกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ไทยได้บ้างและช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย