Should be a good week
• World: คาดตลาดหุ้นโลกและหุ้นไทยแกว่ง Sideways ถึง Sideways up ในสัปดาห์นี้ รับปัจจัยการประชุม Fed ที่ไม่น่าจะมี Negative surprise ใดๆเกิดขึ้น (รายละเอียดด้านล่าง) ส่วนปัจจัยภายใน แนะติดตามค่าเงิน บาทหลังได้อานิสงส์ทางอ้อมมาจากรายงานตัวเลขดุลการค้าที่ออกมา พลิกเกินดุลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จนล่าสุดถือเป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามาก ที่สุดในเอเชีย มองอาจเป็นปัจจัย Sentiment เชิงบวกเล็กๆต่อมายัง Fund flow ภายในประเทศ ส่วนปัจจัยบวกระยะสั้น ได้แก่ ตัวเลข PCE ของ สหรัฐฯที่ออกมาเมื่อคืนวันศุกร์ไม่ได้สูงไปกว่าตลาดคาด การลงนามความ ตกลงยกเว้นวีซ่าระหว่างไทยจีนที่เกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ และราคา น้ํามันดิบที่ทําจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 2 เดือน ซึ่งคาดเป็นปัจจัยบวกทางอ้อม ต่อมายังกลุ่ม Oil & Gas ของไทยในวันนี้
• China: ในส่วนของหุ้นจีนและฮ่องกง คาดว่าจะยังเห็นโมเมนตัมเชิงบวก ต่อเนื่องได้ หลังทางการจีนประกาศมาตรการสนับสนุนตลาดทุนในประเทศ อย่างต่อเนื่อง โดยช่วงสุดสัปดาห์ ฝ่ายกํากับดูแลตลาดหุ้นได้ออกประกาศ ว่าจะห้ามไม่ให้มีการยืมหุ้นบางประเภท อาทิ หุ้นที่อยู่ในช่วง Lock-up period ของผู้ถือหุ้นประเภท Strategic shareholder เพื่อป้องกันความ เป็นไปได้ที่หุ้นเหล่านั้นจะถูกนําไปทําธุรกรรม Short selling อันจะ ก่อให้เกิดความผันผวนในตลาด
• Strategy: ตราบใดที่ SET Index ยังคงอยู่ต่ํากว่าบริเวณดัชนีเหมาะสมใน กรณีฐานของเราที่ 1400-1410 จุด ดัชนีอาจจะมีความพยายามที่จะปรับตัว Technical rebound ต่อได้ แนะนําถือครองหุ้นในส่วนเดิมได้ต่อไป ไม่ว่า จะเป็นกลุ่ม Magnificent 7 ของเราซึ่งได้แก่ ADVANC, AP, BCH, INTUCH, PTT (BK:PTT), SIRI, TISCO รวมไปถึงกลุ่มค้าปลีกที่ยังคงเป็น Sector ที่เราแนะนํา Overweight เช่นเดิม
• FOMC: ประเมินปัจจัยสําคัญที่สุดในสัปดาห์นี้คงหนีไม่พ้นการประชุม Fed ซึ่งจะทราบผลในช่วงดึกคืนวันที่ 31 ม.ค.ตามเวลาบ้านเรา ล่าสุดประเมินว่า จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงนโยบายแต่อย่างใด แต่อยากให้จับตา Statement ที่ออกมา ว่าจะมีความเห็นต่างในส่วนของส่วนผสมกรรมการ FOMC ชุดใหม่หรือไม่อย่างไร รวมไปถึงช่วงตอบคําถามของนาย Jerome Powell ซึ่งเราคิดว่ายังน่าจะยึดโทนเป็นกลางมากที่สุดเท่าที่ เป็นไปได้ ด้วยเหตุนี้จึงประเมินว่าโอกาสที่เหตุการณ์ดังกล่าวจะสร้าง Surprise โดยเฉพาะ Surprise ในทางลบนั้นจึงมีค่อนข้างยากในสัปดาห์นี้
• Factors: สําหรับปัจจัยอื่นๆที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
1) รายงานตัวเลข PMI ภาคการผลิตของประเทศสําคัญ โดยเฉพาะจีนใน วันที่ 31 ม.ค. ล่าสุดตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 49.3 ใกล้เคียงกับเดือน ก่อน
2) รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสําคัญเดือนธ.ค.ของไทยในวันที่ 31 ม.ค. ซึ่งมีตัวเลขที่น่าติดตามได้แก่ การบริโภคภาคเอกชน ดุลบัญชี เดินสะพัด ฐานเงิน และบัญชี Foreign Currency Deposit (FCD)
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities