บมจ.บ้านปู (BK:BANPU))
สิ่งที่ได้จากงาน Opportunity Day
1.ช่วง 1Q20 EBITDA รวมของกลุ่มอยู่ที่ US$134ล้าน (-42%YoY,+2%QoQ) มาจากธุรกิจถ่านหิน (57%) และไฟฟ้า (41%) ตามลำดับ การลดลง YoY เป็น ผลจากราคาถ่านหินปรับตัวลดลง ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจถ่านหินซึ่งเป็นรายได้หลักอยู่ที่ US$524 ล้าน (-9%YoY) ขณะที่ปริมาณการขายสามารถ เพิ่มขึ้น 12%YoY มาอยู่ที่ 8.8 ล้านตัน การเพิ่มขึ้น QoQ เป็นผลจาก โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมจีน ขายไฟและโอนไฟเพิ่มขึ้น ประกอบกับ ประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้นของโรงไฟฟ้า หงสาและ BLCP ส่งผลให้EBITDA จากธุรกิจไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 485%QoQ
2.ธุรกิจถ่านหินยังคงผันผวน ราคาถ่านหินยังถูกกดดันจากภาวะอุปทานส่วนเกิน กอปรกับผลกระทบของโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการถ่านหินที่ใช้ผลิต ไฟฟ้าลดลงตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ลดลง โดยบริษัทมีมาตรการเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนการผลิต โดยตั้งเป้าลดต้นทุนอย่างน้อย 15% ทุกหน่วยธุรกิจในปีนี้ โดยเน้นขายในตลาดที่มีราคาดี เช่น ออสเตรเลีย และ FIX ราคามากขึ้น เพื่อให้ราคาขายเฉลี่ยไม่ลดลง
3.ธุรกิจโรงไฟฟ้ามีแผน COD 4 โครงการใหม่ในปีนี้ขนาดรวมกันราว 424MWe หรือ 19% ของโครงการที่ดำเนินการอยู่ (ดูเพิ่มเติมใน BPP Visit Note) แต่ ส่วนมากจะ COD ในช่วงครึ่งหลังของปี 2020
ความเห็นนักวิเคราะห์
ผลประกอบการของธุรกิจเกือบทั้งหมดมาจากธุรกิจถ่านหิน และโรงไฟฟ้า โดย ธุรกิจถ่านหินได้รับแรงกดดันจากราคาถ่านหินยังมีแนวโน้มลดลงตามปริมาณ ความต้องการของตลาดโลกที่ลดลงตามนโยบายพลังงานสะอาด ส่งผลให้อุปทานถ่านหินส่วนเกินอยู่ในระดับสูง ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้ามีการเติบโตค่อยเป็น ค่อยไปตามการ COD โรงไฟฟ้าใหม่ในแต่ละปี
ขณะที่การเติบโตของกำไรจากธุรกิจอื่นโดยเฉพาะ US Shale Gas ที่จะมาชดเชยการลดลงของธุรกิจถ่านหินยัง เป็นไปได้ยากใน 12 เดือนข้างหน้า นักลงทุนจึงควรติดตามแนวโน้มยอดขายถ่านหินและระดับราคา รวมถึงแนวโน้มการ COD โรงไฟฟ้า ซึ่งจะส่งผลต่อผลประกอบการรายไตรมาสและการปรับประมาณการของนักวิเคราะห์พิจารณาข้อมูลจาก Bloomberg มีนักวิเคราะห์ราว 4 จาก 15 ท่านที่ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 7.45 บาท
บทความนี้เผยแพร่ครั้งแรกที่ cgsec.co.th