Investing.com - ราคาทองแดงพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนในตลาดเอเชียวันนี้ หลังได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในผู้นำเข้าชั้นนำอย่างจีน ขณะที่การลดกำลังการผลิตโดยโรงหลอมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศก็ส่งผลให้อุปทานมีความตึงตัวมากขึ้น
ทองแดงฟิวเจอร์สอายุ 3 เดือน ของ London Metal Exchange เพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 9,347.50 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่ ทองแดงฟิวเจอร์สอายุ 1 เดือน ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 4.2328 ดอลลาร์ต่อปอนด์ เมื่อเวลา 23:40 ET ( 03:40 GMT) สัญญาทั้งสองเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2023
การอ่อนค่าของ ดอลลาร์ ยังช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ หลังร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนเมื่อต้นสัปดาห์นี้
รายงาน PMI ของจีนบ่งชี้ถึงกิจกรรมโรงงานที่ดีขึ้นและหนุนราคาทองแดง
ความเชื่อมั่นในราคาทองแดงได้รับแรงหนุนจากรายงาน PMI เชิงบวกจำนวนมากจากประเทศจีน ซึ่งแสดงให้เห็น improvment ใน กิจกรรมการผลิต ในเดือนมีนาคม
โรงงานในจีนเป็นแหล่งความต้องการทองแดงที่สำคัญ ซึ่งหากมีการผลิตที่เพิ่มขึ้นก็จะถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความต้องการทองแดงในอนาคตที่มากขึ้น
ขณะที่สินค้าคงคลังทองแดงของจีนก็เพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2024 ความต้องการที่สูงขึ้นยังสามารถผลักดันการนำเข้าทองแดงของประเทศได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวต่อไป
โรงถลุงทองแดงของจีนกำลังหารือเรื่องการลดกำลังการผลิต
รายงานล่าสุดแสดงให้เห็นว่าโรงถลุงทองแดงที่ใหญ่ที่สุดของจีนกำลังพิจารณาที่จะลดกำลังการผลิตลงระหว่าง 5% ถึง 10% ของการผลิตโดยรวม
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการหยุดชะงักการผลิตในเหมืองทองแดงหลักทั่วโลก ทำให้ปริมาณแร่ทองแดงลดลง
รายงานของ Bloomberg แสดงให้เห็นว่าโรงถลุงแร่รายใหญ่ของจีน 13 แห่งเสนอให้ลดกำลังการผลิตลงระหว่าง 5% ถึง 10% แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการดำเนินการหรือไม่
“ตลาดทองแดงมีความตึงตัวมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากการลดกำลังการผลิตจากเหมืองทองแดงบางส่วน ซึ่งทำให้โรงถลุงของจีนที่ผลิตทองแดงบริสุทธิ์มากกว่าครึ่งของโลก พิจารณาลดการผลิตหลังจากค่าใช้จ่ายในการผลิตลดลง” นักวิเคราะห์ของ ANZ กล่าว
การผลิตทองแดงที่ลดลงก็คาดว่าจะทำให้อุปทานทองแดงทั่วโลกตึงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเผชิญกับอุปสงค์ของจีนที่เพิ่มขึ้น