อาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 300% ในทุก ๆ ปีนับตั้งแต่ปี 2017 จนถึง 2020 นอกจากนี้จากการวิจัยใหม่ที่จัดทำโดย Crypto Head ซึ่งเป็นเว็บไซต์รวบรวมข้อมูลด้านคริปโตพบว่าอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับ crypto นั้นกำลังเพิ่มขึ้นในออสเตรเลียและอังกฤษแม้ว่าจะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากเท่ากับสหรัฐฯ ก็ตาม อาชญากรรม crypto ส่วนใหญ่ในทั้งสามประเทศล้วนเกี่ยวข้องกับสกุลเงิน Bitcoin ในขณะที่ Ethereum นั้นพบได้บ่อยมากที่สุดเป็นอันดับสอง ในระหว่างปี 2016 ถึง 2020 มีรายงานว่าคดีหลอกลวงกว่า 110,000 คดีล้วนเกี่ยวข้องกับ crypto, โครงการ pump-and-dump หรือการโจรกรรมในสหรัฐอเมริกา โดยในปีที่แล้วเพียงอย่างเดียวมีคดีที่เกี่ยวข้องกับคริปโตสูงถึง 82,135 คดี ในขณะที่อังกฤษมีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับ crypto เติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 24% ต่อปีระหว่างปี 2016 ถึง 2020 รวมทั้งหมดเกือบ 25,000 คดี ส่วนทางด้านออสเตรเลียมีประมาณ 23,500 คดีนับตั้งแต่ปี 2018 ถึง ปี 2020 ผลการวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า จำนวนคดีจริง ๆ แล้วอาจมีมากกว่านี้ แต่เนื่องจากข้อมูลดังกล่าวนี้ได้สะท้อนให้เห็นเฉพาะอาชญากรรมที่ได้รับรายงานเท่านั้น และเนื่องจากคริปโตที่ยังคงเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่ เหยื่อบางรายจึงอาจไม่ทราบว่าจะรายงานออกมาในลักษณะใด โดยข้อมูลทั้งหมดได้รวบรวมจากสิทธิเสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสาร (Freedom of Information) ที่ถูกส่งไปยัง Action Fraud ในอังกฤษ คณะกรรมาธิการด้านการค้าแห่งสหพันธรัฐของสหรัฐอเมริกา และคณะกรรมการการแข่งขันและผู้บริโภคของออสเตรเลีย ในรายงานที่แยกออกมา ทาง Federal Trade Commission ได้ประเมินว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันนั้นสูญเสียเงินลงทุนไปร่วมกว่า 80 ล้านดอลลาร์จากการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับคริปโต นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2020 จนถึงเดือนพฤษภาคม 2021 โดยมีการหลอกลวงผู้คนแล้วเกือบ 7,000 รายในช่วงเวลาดังกล่าวหรือคิดเป็นการขาดทุนเฉลี่ยตกคนละราว ๆ 1,900 ดอลลาร์
กดอ่านข่าว รายงานเผยอาชญากรคริปโตของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น กว่า 300% ในปีนี้ ต่อที่ Siam Blockchain