สำนักข่าวรอยเตอร์สกล่าวถึงข้อพิพาทในช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิปดีสหรัฐอเมริกาของประธานาธิปดี ดอนัล ทรัมป์ และ โจ ไบเดิน
แม้ว่าการหาเสียงจะจบลงไปแล้ว ทรัมป์ผู้ซึ่งในขณะนี้มีคะแนนตามหลังไบเดิน ยังคงโจมตีประเด็นการนับคะแนนทางไปรษณีย์หลังจากวันเลือกตั้งสิ้นสุดลง โดยมีการใช้ทนายเข้าสู้ ตามที่จัสติน คลาร์ก ผู้จัดการรณรงค์หาเสียงของทรัมป์กล่าวว่า พวกเขาจะสู้กับความพยายามในการนับคะแนนเหล่านั้น
ทางด้าน เจ็น โอมาลลีย์ ดิลลอน ผู้จัดการรณรงค์หาเสียงของไปเดินได้ออกมาตอบโต้ทันที โดยเธอกล่าวว่า “ทรัมป์จะไม่มีวันชนะ”
การเลือกตั้งครั้งนี้เปิดช่องให้มีการฟ้องร้องอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้มีปริมาณผู้ลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์จำนวนมาก ทั้งนี้ ผู้พิพากษาของรัฐบาลกลางแห่งรัฐเท็กซัสได้ปัดตกคำร้องที่พรรครีพับลิกันได้มีการขอให้ปัดตกคะแนน 127,000 เสียงจากการโหวตแบบ drive-thru
แม้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์มากเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้มีการใช้สิทธิ์ในรูปแบบของบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์สูงพึง 60 ล้านใบ ส่งผลให้การนับคะแนนมีความล่าช้าในบางรัฐ เช่น เพนซิลเวเนียและวิสคอนซิน ที่ยืนกรานจะไม่เริ่มนับคะแนนจนกว่าจะได้รับคะแนนทางไปรษณีย์ทั้งหมด ซึ่งทรัมป์ก็ยังคงยืนกรานเรื่องวันสิ้นสุดการนับคะแนน และไม่ควรนับคะแนนเหล่านี้
ท่ามกลางความสับสนนี้เองสร้างความตึงเครียดให้ผู้คนทุกฝ่ายที่เฝ้ารอผลการเลือกตั้ง ความผันผวนก่อตัวขึ้นในเมืองหลายแห่ง รวมถึงทำเนียบขาวและ Macy's Inc (NYSE:M) ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในนิวยอร์ก
การกระทบกระทั่งดังกล่าวทำให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นหลายแห่ง มีการใช้ยานพาหนะล้อมรถผู้สนับสนุนไบเดิน และเหตุการณ์อื่นๆ อีกมากมาย
ด้านอัยการจากทั้ง 8 รัฐ ได้แก่ อิลินอยส์ มิชิแกน มินิโซต้า เนวาด้า นิวเม็กซิโก นอร์ธ แคโรไลน่า เพนซิลเวเนีย และวิซคอนซิน กล่าวว่า การข่มขู่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมดคือการกระทำที่ผิดกฏหมาย หากมีการพบเห็นสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที