โดย Liz Moyer
Investing.com – หุ้นสหรัฐทำผลงานย่ำแย่ โดยปิดตลาดที่ระดับต่ำลงในวันพฤหัสบดีหลังจากเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สรุปคำแถลงวันแรกของเขาในหัวข้อแคปิตอล ฮิลล์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรายงานรายครึ่งปีเกี่ยวกับเศรษฐกิจ
เมื่อเวลา 16:12 น. ET ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 47 จุดหรือ 0.2% ในขณะที่ S&P 500 ลดลง 0.1% และ NASDAQ คอมโพสิต ลดลง 0.1%
พาวเวลล์เข้าประชุมกับคณะกรรมการการธนาคารวุฒิสภาเมื่อเช้านี้และจะเยือนสภาในวันพรุ่งนี้ เขาบอกกับฝ่ายนิติบัญญัติว่าเฟดมี "ความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า" ที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อ และรับรองกับพวกเขาว่าเศรษฐกิจแข็งแกร่งพอที่จะทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ใช้เป็นเครื่องมือในการบรรลุเป้าหมายลดอัตราเงินเฟ้อดังกล่าว
พาวเวลล์ยังกล่าวด้วยว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในอนาคตจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ ไม่ว่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงหรือปรับตัวลง เขายอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยอาจจะเกิดขึ้นได้ เฟดได้ปรับ อัตราดอกเบี้ย ขึ้นสามในสี่ของจุดเปอร์เซ็นต์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ และพาวเวลล์ยังกล่าวว่าการเพิ่มขึ้นอีก 50 ถึง 75 จุดพื้นฐานอาจเป็นแนวทางในการประชุมเดือนกรกฎาคม
ธนาคารต่าง ๆ ได้คาดการณ์ถึงภาวะถดถอยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ Goldman กำหนดอัตราต่อรองไว้ที่ 30% ในปีหน้า ในขณะที่ Citigroup กำลังบอกว่ามีโอกาส 50% ที่เศรษฐกิจโลกจะถดถอยเนื่องจากผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลง
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน พยายามทำหน้าที่ของเขาเพื่อบรรเทาเงินเฟ้อ โดยขอให้รัฐสภายุติการเก็บภาษีน้ำมันเบนซินและดีเซลเป็นเวลาสามเดือนของรัฐบาลกลาง
หุ้นกลุ่มพลังงานได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ลดลงเกือบ 4% สู่ 105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 3.4% สู่ระดับ 110.76 ดอลลาร์ {{8830|สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ} ทรงตัวที่ 1,840 ดอลลาร์ต่อออนซ์
หุ้น ConocoPhillips (NYSE:COP) ร่วงลงมากกว่า 6% ขณะที่หุ้น Marathon Oil Corporation (NYSE:MRO) ร่วงลง 7% Occidental Petroleum Corporation (NYSE:OXY) ลดลง 3.6%