หุ้นเอเชียขึ้นแรงหนุนจากขาขึ้นหุ้นสหรัฐฯ และรายได้ที่แข็งแกร่ง 

© Reuters.

โดย  Gina Lee

Investing.com – หุ้นเอเชียแปซิฟิกปรับตัวขึ้นในเช้าวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของคู่สัญญาสหรัฐฯ และจากรายงานรายได้ล่าสุดที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งแม้จะมีอัตราเงินเฟ้อสูงก็ตาม

นิคเคอิ 225 เพิ่มขึ้น 0.79% เมื่อเวลา 22:01 น. ET (2:01 น. GMT) ข้อมูลที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเขตโตเกียว (CPI) เพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนพฤษภาคม 2022 ดัชนีราคาผู้บริโภคเมืองโตเกียว เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี และ ดัชนีราคาผู้บริโภคในเขตกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นที่ไม่รวมกลุ่มสินค้าอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน

KOSPI ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 1.10% และ S&P/ASX 200ในออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 0.87%

ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงพุ่งขึ้น 3.19%

เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนเพิ่มขึ้น 0.49% และ ดัชนีส่วนประกอบ SZSE เพิ่มขึ้น 1.06%

S&P 500 ขยับขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งปี หลังจากที่ผู้ค้าปลีกรวมทั้ง Macy's Inc. ได้ปรับการคาดการณ์ขึ้น Nasdaq 100 ได้รับมากกว่า 2% ขณะที่รายได้จาก Alibaba (BABA) Group Holding Ltd. และ Baidu Inc (NASDAQ:BIDU) หนุนหุ้นจีนที่ซื้อขายในสหรัฐฯ

อัตราผลตอบแทนของryoT[y9iสหรัฐฯ ทรงตัว โดยนักลงทุนถอยห่างจากสินทรัพย์ปลอดภัยเนื่องจากความเชื่อมั่นในความเสี่ยงปรับตัวดีขึ้น น้ำมันอยู่ใกล้ระดับ 114 ดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของตลาดในวงกว้าง และสัญญาณการปรับลดลงในหุ้นของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ทองแดง และอะลูมิเนียมทำให้ราคาโลหะลดลง เนื่องจากมีความกังวลว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์

ในเอเชียแปซิฟิก จีนกำลังพยายามสร้างสมดุลระหว่างมาตรการโควิด19 กับผลกระทบต่อเศรษฐกิจ จีน-สหรัฐอเมริกา ความตึงเครียดยังเพิ่มขึ้นหลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศ Antony Blinken มุ่งเป้าไปที่ความคิดเห็นของเขาที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน โดยกล่าวว่า “ภายใต้ประธานาธิบดี สี พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้มีพฤติกรรมกดขี่ประชาชนในประเทศและก้าวร้าวมากขึ้นในต่างประเทศ”

หุ้นทั่วโลกถูกกำหนดให้ยุติการตกต่ำเจ็ดสัปดาห์ซึ่งทำให้การประเมินมูลค่าน่าสนใจ อย่างไรก็ตาม ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แนวโน้มเศรษฐกิจของจีน และสงครามในยูเครนที่เกิดจากการรุกรานของรัสเซียในวันที่ 24 ก.พ. ที่ยังคงอยู่

Anastasia Amoroso หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนของ iCapital กล่าวว่า "เราอาจเห็นเสถียรภาพเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่นี่ เพราะเราได้ปรับราคาหุ้นใหม่มากแล้ว"

“ฉันไม่รู้ว่าการเคลื่อนไหวนี้จะสูงขึ้นมากเพียงใดเพราะฉันไม่คิดว่าปัจจัยพื้นฐานจะสมเหตุสมผลในระยะเวลาอันใกล้นี้และจะยังคงอยู่ในสภาพแวดล้อมของตลาดที่มีข้อจำกัดในอีกสามถึงหกเดือนข้างหน้าได้ไหม”

รายได้ที่แข็งแกร่งช่วยให้นักลงทุนผ่อนคลายได้เล็กน้อยหลังจากที่ Walmart (NYSE:WMT) Inc. และ Target Corp. (NYSE:TGT) ปรับลดแนวโน้มในสัปดาห์ก่อน ผู้บริโภคในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ยังคงคาดหวังว่าภาวะเงินเฟ้อที่กระทบกระเทือนจิตใจจะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และสำหรับราคาที่เพิ่มขึ้นจะต่ำและทรงตัวในระยะยาว ธนาคารกลางในนิวยอร์กกล่าวเสริมในรายงาน

ในขณะเดียวกัน ข้อมูลของสหรัฐอเมริกา รวมถึง ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล PCE , ดัชนีรายได้ส่วนบุคคล และ ดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล, ปริมาณสินค้าคงคลังภาคการค้าส่ง และ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกน จะครบกำหนดในช่วงท้ายของวัน