โดย Oliver Gray
Investing.com - สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อยในการซื้อขายช่วงต้นของเอเชียแปซิฟิก ในวันจันทร์ หลังจากปรับตัวขึ้นมาแล้ว 3 สัปดาห์ติดต่อกัน และซื้อขายที่ราคาสูงเกือบตลอดเวลา เนื่องจากผลประกอบการจากบริษัทใหญ่ ๆ ดีกว่าที่คาดการณ์ กระตุ้นความเชื่อมั่น แม้ว่าจะมีความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับปัญหาคอขวดของอุปทานและการขาดแคลนแรงงาน .
ในช่วงเซสชั่นปกติของวันศุกร์ ดัชนีดาวโจนส์ ไต่ขึ้นเกือบ 73.94 จุดหรือ 0.21% มาที่ 35677.03 ซึ่งเป็นการปิดที่สถิติใหม่ ขณะที่ S&P 500 ลดลง 4.88 จุดหรือ 0.11% มาที่ 4544.91 และ Nasdaq Composite ร่วง 125.5 จุดหรือ 0.82% เป็น 15090.20
ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ลดลง 50 จุด S&P 500 futures และ Nasdaq 100 futures ลดลงประมาณ 0.1% ทั้งสองดัชนี
ในบรรดาหุ้นที่น่าจับตา Intel (NASDAQ:INTC) ร่วงลง 11.68% และ Snap ดิ่งลง 26.59% หลังจากที่ทั้งสองบริษัทรายงานผลประกอบการออกมาน่าผิดหวัง Tesla (NASDAQ:TSLA) เพิ่มขึ้น 1.75% หลังจากบันทึกผลกำไรและรายได้เป็นประวัติการณ์ จากข้อมูลของ Refinitiv บริษัท 117 แห่งหรือ 84% ของบริษัทใน S&P 500 รายงานว่ามีตัวเลขรายได้เหนือความคาดหมาย S&P 500 คาดว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้นประมาณ 35% ในไตรมาสที่สาม
ด้านตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนเป็น 1.636%
ในช่วงท้ายของสัปดาห์ นักลงทุนจะจับตารายได้ที่ท่วมท้นในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง Facebook (NASDAQ:FB), Alphabet (NASDAQ:GOOGL), Microsoft (NASDAQ:MSFT), Amazon (NASDAQ:AMZN) และ Apple (NASDAQ:AAPL) ซึ่งจะประกาศผลประกอบการในสัปดาห์นี้ บริษัทในดาวโจนส์จำนวนหนึ่งก็เตรียมเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสในสัปดาห์นี้เช่นกัน ซึ่งรวมถึง Caterpillar, Coca-Cola, Boeing และ McDonald’s