โดย วณิชชา สุมานัส
Investing.com – ตลาดหุ้นไทย (SET) ปิดตลาดเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 1,532.09 จุด ลดลง 0.62 จุด หรือคิดเป็น 0.04% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 42,394.67 ล้านบาท โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 1,528.58-1.541.08 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส ชี้ว่า ปัจจัยในต่างประเทศยังไม่น่าจะมีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทยเช้านี้มากนัก แต่ระยะต่อไปความกังวลเรื่องการส่งสัญญาณลด QE อาจมีมากขึ้น
สำหรับปัจจัยในประเทศแล้ว นายเทิดศักดิ์ เผยว่า วันจันทร์หน้า สภาพัฒน์ฯ จะประกาศ GDP ซึ่งคาดว่าจะเห็นการหดตัวเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ ในไตรมาส 3 ปีงบ 2564 ก็น่าจะหดตัวต่อ ส่วนผลประกอบการของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์งวดไตรมาส 2 ปีงบ 2564 ประกาศออกมาแล้ว 72.6% ของมุลค่าการตลาด โดยมีกำไรสุทธิ 2.3 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ ดัชนี ตลาดหุ้นไทยน่าจะผันผวนในทางลงโดยมี 1,550 จุด เป็นแนวต้านหลัก ส่วน 1,525 จุดเป็นแนวรับ พอร์ตจำลองไม่มีปรับเปลี่ยน โดยยังถือเงินสดสำรอง 15% และ Top Pick แนะนำหุ้น BAM, MCS และ TVO
1. BAM คาดกำไรสุทธิปี 2564-65 จะฟื้นตัวถึง 44.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาและ 18.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา จากแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัว หนุนการจัดเก็บเงินสดได้เพิ่มขึ้น โดยคาดกำไรสุทธิงวดไตรมาสที่ 2 ปีงบ 2564 จะฟื้นตัวชัดเจนทั้ง เมื่อเทียบรายไตรมาสและเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาจากปัจจัยบวกด้านบน
2. MCS คาดกำไรไตรมาส 2 ปีงบ 2564 ทำได้สูงถึง 330 ล้านบาท (+41% เมื่อเทียบรายไตรมาส, +46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา) หนุนด้วยปริมาณส่งมอบโครงสร้างเหล็กรวม 2.25 หมื่นตัน โดยกำไรครึ่งปีแรกของปี 2564 ที่คาดว่าจะทำได้สูงถึง 564 ล้านบาท ประเมินปันผลในครึ่งปีแรกของปี 2564 ไว้ที่ 0.55 บาท คิดเป็นยอดปันผล 3.8%
3. TVO แนวโน้มกำไรปกติในไตรมาส 2 ปีงบ 2564 ราว 750 – 800 ล้านบาท เติบโตเด่นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยคาดยอดขายขยายตัว 48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ตามปริมาณการขายกากถั่วเหลือง รวมถึงทิศทางราคากากถั่วเหลืองในประเทศที่สูงขึ้น 38% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา