โดย วณิชชา สุมานัส
Investing.com – สำหรับ ตลาดหุ้นไทย (SET) วันนี้ โบรกเกอร์ชี้ว่า หุ้นไทยกำลังเผชิญกับความผันผวนจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึง ราคาน้ำมันดิบและดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วง เป็นปัจจัยลบ กดดันการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย และกรอบเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะอยู่ระหว่าง 1,530-1,555 จุด แนะนักลงทุนเบื้องต้นให้เน้นลงทุนในหุ้นที่รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อนและบริษัทที่ประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ได้โดดเด่น
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ปัจจัยระยะสั้นที่จะมีผลกระทบต่อการลงทุนในช่วงนี้ได้แก่ผลการประชุม กนง. เมื่อวานนี้ โดยมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% เช่นเดิม ประกอบกับ ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจในการประชุมครั้งนี้ทันที (ปกติ รอบปรับประมาณการ คือ เดือนกันยายน) โดยปีนี้ ปรับลดจากเดิม +1.8% เหลือ 0.7% และปีหน้าจาก +3.9% เหลือ 3.7% บนสมมติฐานหลักคือ สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้และทยอยผ่อนคลายมาตรการควบคุม ตั้งแต่ต้นไตรมาส 4 ปีนี้เป็นต้นไป
สำหรับ 4 หุ้นเด่นน่าลงทุนวันนี้ ได้แก่
1. UV โดยการปรับโครงสร้างธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจไฟฟ้าจะช่วยหนุนให้เกิดการยกระดับเชิงการประเมิน เนื่องจากธุรกิจไฟฟ้ามีรายได้ที่มั่นคง และการได้ BGRIM เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งผ่านการลงทุนแบบ JV จะเชื่อให้ตลาดมั่นใจต่อการเติบโตของบริษัท
2. BPP ที่มีอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐถึง 10 ปี โดยจะยังทรงตัวบริเวณ 1.2% และประเมินว่าจะเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า ขณะที่แนวโน้มในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า คาดว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะทรงตัวในระดับต่ำต่อเนื่องจากซัพพลายพันธบัตรสหรัฐฯ ที่จะลดลงตั้งแต่เดือน พ.ย. หลังระดับการก่อหนี้ชนเพดานแล้ว
3. BGRIM โดยภาพทางเทคนิคแล้ว แนวต้านจะอยู่ที่ 42.50 บาท แนวรับ 41.00 บาท และสต็อปลอสต์ หากต่ำกว่า 39.50 บาทคาดกำไรปกติ 2Q64 มีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 902 ล้านบาท เติบโต +34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา และ +40% เทียบรายไตรมาส เป็นปัจจัยบวกที่รออยู่
4. ADVANC หุ้นกลุ่มสื่อสารเป็นที่พักเงินได้ดี จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ทั่วโลกปรับตัวลงโดยช่วยหนุนความเชื่อมันต่อหุ้นกลุ่ม Defensive โดยจะเพิ่มขึ้น XD เงินปันผลในช่วงไตรมาสแรก ปี 2564 หุ้นละ 3.45 บาท ในวันที่ 16 สิงหาคม ให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 1.9% การเปลี่ยน แปลงเชิงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ใน INTUCH หลังคาดว่า GULF จะก้าวขึ้นสู่ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 เราประเมินว่าจะมีการเปลี่ยนเชิงนโยบาย เช่น อัตราการจ่ายเงินปันผล การ Spin-Off Asset และเป็นบวกโดยตรงต่อผู้ถือหุ้นของ ADVANC