โดย วณิชชา สุมานัส
Investing.com – วันนี้ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้ผู้ลงทุนตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ของ THG ด้วยความระมัดระวัง หลัง ก.ล.ต.ให้ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG และนายบุญ วนาสิน ซึ่งเป็นผู้บริหารชี้แจงข้อมูลเซ็นสัญญานำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ ทำเอาดัชนีช่วงเช้าร่วงไปตาม ๆ กัน ก่อนจะรีบาวด์ช่วงบ่าย
นอกจากนี้ ด้าน นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ ปรับโหมดชั่วคราว เมื่อนักลงทุนกล้าที่จะเสี่ยงมากขึ้น สะท้อนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่ม Domestic Play ซึ่งปรับตัวลงแรงในช่วงก่อนหน้านี้จากความกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เช่น กลุ่มธนาคาร กลุ่มการเงิน กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เป็นต้น พร้อมกับมีแรงขายหุ้นกลุ่ม Defensive โดยเฉพาะกลุ่มสื่อสาร
โดยแนะหุ้นเด่นน่าซื้อ 4 ตัว ได้แก่
1. ORI โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2 ปีงบ 2564 ที่ 868 ล้านบาท เติบโต +23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมาและ +5% เมื่อเทียบรายไตรมาส แม้โครงการแนวสูงจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 แต่สัดส่วนรายได้จากโครงการแนวราบที่เพิ่มขึ้นมาก กำไรพิเศษจากเบี้ยหลัก และรายได้ค่าบริหารโครงการเป็นปัจจัยช่วยหนุนกำไร
2. FORTH คาดกำไรไตรมาส 2 ปีงบ 2564 โตสูงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา จากฐานที่ต่ำในปีก่อน และการส่งมอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ให้ลูกค้าใหม่ ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3 ปีงบ 2564 จะโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา
3. BPP ซึ่งพันธบัตรให้ผล 10 ปีสหรัฐฯ ทรงตัวในระดับต่ำที่ 1.17% เราประเมินว่าจะเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า
4. AJ โดยภาพทางเทคนิค แนวต้าน 20.80 บาท แนวรับ 19.60 บาท และสต็อปลอสต์ หากต่ำกว่า 19.10 บาท เราคาดกำไรปกติ ไตรมาส 2 ปีงบ 2564 ราว 172 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา แต่เพิ่มขึ้น +3% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว โดยแนวโน้มกำไรไตรมาส 2 ปี 2564 คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวลง