โดย Yasin Ebrahim
Investing.com – ดัชนี S&P 500และ NASDAQ Compositeปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ จากการที่หุ้น Facebook และหุ้นชิปผลักดันกลุ่มเทคโนโลยีให้สูงขึ้นและชดเชยราคาที่ร่วงลงของกลุ่มพลังงานก่อนการประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในปลายสัปดาห์นี้
ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระหว่างวันที่ 4,290.61 ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 0.44% หรือ 150 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.98% เป็นสถิติใหม่ที่ 14,500.51 จุด
หุ้นเทคฯได้รับแรงหนุนอย่างมากจาก Facebook หลังจากที่ศาลรัฐบาลกลางยกฟ้องคดีต่อต้านการผูกขาดของคณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐกับยักษ์ใหญ่ด้านโซเชียลมีเดียรายนี้ ด้วยการพยายามบังคับให้ Facebook ขาย Instagram และ WhatsApp และกำหนดให้ Facebook ต้องแจ้งล่วงหน้าและอนุมัติการควบรวมกิจการในอนาคต
Facebook Inc (NASDAQ:FB) ปิดตัวสูงขึ้นกว่า 4% โดยมีมูลค่าตลาดสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ส่วน Microsoft Corporation (NASDAQ:MSFT),Apple Inc (NASDAQ:AAPL),Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN)) และ Alphabet Inc Class A (NASDAQ:GOOGL) ก็ปิดบวกเช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ กลุ่มเทคโนโลยียังได้รับการผลักดันจากหุ้นผู้ผลิตชิปที่นำโดย Nvidia ( NASDAQ:NVDA) ซึ่งราคาพุ่งขึ้น 5% หลังมีรายงานว่า Nvidia ได้รับการสนับสนุนให้เข้าซื้อกิจการ ARM มูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์จากลูกค้า ซึ่งรวมถึง Broadcom (NASDAQ:AVGO)
กลุ่มพลังงานลดลงมากกว่า 3% เนื่องจากราคาน้ำมันตกอยู่ภายใต้แรงกดดันก่อนการประชุม OPEC ในวันพฤหัสบดี ที่คาดว่าจะตัดสินใจเพิ่มการผลิต 500,000 บาร์เรลต่อวันตั้งแต่เดือนสิงหาคม ต่อเนื่องจากแผนการผลิตที่เพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคม
”หาก OPEC+ ส่งสัญญาณถึงความตั้งใจที่จะผลิตน้ำมันเพิ่มในอนาคต การเพิ่มขึ้นของราคาในตลาดน้ำมันน่าจะสิ้นสุดในช่วงเวลานี้” Commerzbank (DE:CBKG) ระบุในรายงาน
หุ้นกลุ่มการเงินเป็นหนึ่งในกลุ่มที่ราคาลดลงมากที่สุด หลังจากการหุ้นธนาคารถูกเทขายเนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อภาคธุรกิจนี้ลดลง
หุ้น People’s United Financial (NASDAQ:PBCT), Regions Financial Corporation (NYSE:RF) และ Huntington Bancshares (NASDAQ:HBAN) ร่วงลงมากที่สุดถึง 2%
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงส่งผลเสียต่อผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่ธนาคารได้รับจากผลิตภัณฑ์เงินกู้หรือส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ ซึ่งเป็นส่วนต่างระหว่างรายได้ดอกเบี้ยที่เกิดจากธนาคารและจำนวนดอกเบี้ยที่จ่ายให้กับผู้ฝากเงิน
ในช่วงการขายซื้อขายหลังปิดตลาด หุ้นธนาคารดีดตัวขึ้น นำโดย Morgan Stanley (NYSE:MS) หลังจากเพิ่มเงินปันผลรายไตรมาสเป็นสองเท่าและประกาศซื้อคืนหุ้นมูลค่า 12,000 ล้านดอลลาร์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงส่งผลให้อุปสงค์สำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคและสาธารณูปโภค เพิ่มขึ้น เนื่องจากภาคธุรกิจดังกล่าวมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง
ราคาหุ้น การบินกรุงเทพ จำกัด (BK:BA) ปิดตัวลดลง 3% ทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมการบินร่วงลงตามไปด้วย จากรายงานของ CNBC โดยอ้างจดหมายจากเจ้าหน้าที่บริหารการบินแห่งสหพันธรัฐที่ส่งถึง Boeing โดยระบุว่าทางบริษัทไม่น่าจะได้รับการอนุมัติเครื่องบิน 777X อย่างน้อยจนกว่าจะถึงปลายปี 2023
ทางด้านข่าวอื่น ๆ หุ้น Beachbody ปิดตัวสูงขึ้นเกือบ 7% หลังจากเปิดตัวการซื้อขายเมื่อวานนี้เป็นวันแรก