Investing.com - ตลาดหุ้นในยุโรปวันนี้พากันปรับตัวลดลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นในวอลล์สตรีท เนื่องจากนักลงทุนเริ่มระมัดระวังจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้แนวโน้มในการคุมเข้มนโยบายทางการเงินสูงขึ้น
ดัชนี STOXX 600 ลดลง 1.1% เมื่อเวลา 07:11 GMT ซื้อขายกันที่ระดับต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาล 2% หุ้นทางฝั่งยุโรปได้รับแรงกดดันจากการที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ทำให้ภาคการส่งออกมีต้นทุนแพงขึ้น
ข้อมูลชี้ว่า การเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้าและก๊าซ รวมถึงราคาของเสื้อผ้าและรองเท้า ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภคของอังกฤษในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า
ในขณะที่ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางคาดว่าตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้นดังกล่าว จะเป็นเพียงการชั่วคราว แต่นักลงทุนยังคงกังวลว่า ราคาที่เพิ่มขึ้นอาจคงอยู่ต่อไปอีกเป็นระยะเวลานานและอาจกดดันให้ธนาคารกลางคุมเข้มนโยบายทางการเงิน
นักลงทุนจะรอฟังมุมมองเพิ่มเติมของผู้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายล่าสุด
การลดลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ทำให้หุ้นบริษัทเหมืองแร่ รวมถึงหุ้นบริษัทน้ำมันและก๊าซ อยู่ในกลุ่มที่ขาดทุนเป็นอันดับต้น ๆ ในยุโรป
ราคาของกองทุน Julius Baer เพิ่มขึ้น 1% หลังจากประกาศว่า มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการเพิ่มขึ้นถึง 8% ภายในช่วงสี่เดือนแรกของปีนี้