Investing.com - ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในวันนี้ตามความเชื่อมั่นเชิงบวกต่อเศรษฐกิจจีน หลังจากที่ปักกิ่งเปิดเผยมาตรการที่มุ่งเน้นเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย แต่ความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับสงครามการค้าที่นำโดยสหรัฐฯ ทำให้การปรับตัวขึ้นมีขอบเขตจำกัด
ตลาดในภูมิภาคยังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แม้ว่าการฟื้นตัวดังกล่าวจะเริ่มแผ่วลง เนื่องจากดัชนีฟิวเจอร์สของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงระหว่างการซื้อขายในตลาดเอเชีย
ความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และการเติบโตที่ชะลอตัว ยังคงเป็นปัจจัยกดดันต่อความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงการจับตาการประชุมสำคัญของธนาคารกลางหลายแห่งในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางญี่ปุ่น
นอกเหนือจากจีนแล้ว ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ยังเผชิญกับการขาดทุนอย่างหนักในช่วงเดือนที่ผ่านมา ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ และความเป็นไปได้ของภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ตลาดหุ้นจีนได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนี CSI 300 และ เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงพุ่งขึ้นถึง 1%
ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจจีนยังได้รับแรงหนุนจากการที่รัฐบาลปักกิ่งประกาศมาตรการ "ครอบคลุม" ที่มุ่งกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
รายงานจากคณะรัฐมนตรีของจีนระบุถึงแผนการกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคโดยการเพิ่มค่าจ้าง มอบเงินอุดหนุนเพิ่มเติม และเพิ่มสวัสดิการทางสังคม
มาตรการดังกล่าวถือเป็นคำมั่นสัญญาเพิ่มเติมจากรัฐบาลจีนในการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคเอกชน ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันหลักต่อเศรษฐกิจจีนตลอดสี่ปีที่ผ่านมา
ข้อมูลที่เผยแพร่ในวันนี้แสดงให้เห็นว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรม ของจีนในช่วงสองเดือนแรกของปี 2025 ขยายตัวสูงกว่าที่คาดไว้ ขณะที่ ดัชนียอดค้าปลีก เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ก็เติบโตมากกว่าที่คาดการณ์ ขณะที่ อัตราการว่างงาน ของจีนกลับเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด
ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนและศักยภาพด้านปัญญาประดิษฐ์ของประเทศช่วยผลักดันให้ตลาดหุ้นท้องถิ่นปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ต้นปี 2025 อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินลงทุนส่วนใหญ่กลับไหลไปยังตลาดฮ่องกง
นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาการตัดสินใจเกี่ยวกับ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ของจีน ซึ่งมีกำหนดการณ์ประกาศในสัปดาห์นี้
ดัชนี Nikkei ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น จับตาการประชุม BOJ
ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้น 1.1% ขณะที่ดัชนี TOPIX ปรับตัวขึ้น 1.2%
ความสนใจหลักในสัปดาห์นี้จึงอยู่ที่การประชุมของ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมของวันพุธนี้
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาดูคำแถลงเกี่ยวกับแผนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมของ BOJ ในปีนี้ ท่ามกลางสัญญาณเงินเฟ้อของญี่ปุ่นที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เป็นบวก
ตลาดหุ้นเอเชียโดยรวมได้รับแรงหนุนจากปัจจัยบวกในจีน โดยดัชนี ASX 200 ของออสเตรเลียปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% แต่ดัชนีก็ได้ลดช่วงบวกลงบางส่วนหลังจากรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง Jim Chalmers เตือนถึงอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากผลกระทบของพายุไซโคลนอัลเฟรด
ดัชนี STI ของสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากการเปิดเผยข้อมูลการส่งออกที่หลากหลาย โดย การส่งออกที่ไม่ใช่น้ำมัน ของประเทศขยายตัวสูงกว่าที่คาดการณ์ในเดือนกุมภาพันธ์เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แต่ การเติบโตแบบปีต่อปี ยังคงต่ำกว่าที่คาดไว้
ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 1.4% จากแรงซื้อหุ้นเทคโนโลยีรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นต่อตลาดยังคงได้รับแรงกดดัน เนื่องจากนักลงทุนต่างรอคอยคำตัดสินของศาลเกี่ยวกับการถอดถอนประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ซึ่งถูกกล่าวหาว่าพยายามประกาศกฎอัยการศึกในเดือนธันวาคม การรอคอยคำตัดสินดังกล่าว ซึ่งมีกำหนดการณ์ในสัปดาห์นี้ส่งผลให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่ทั่วเกาหลีใต้
ดัชนีฟิวเจอร์สของ Nifty 50 จากอินเดียบ่งชี้ถึงการเปิดตลาดในแดนบวกเล็กน้อย หลังจากดัชนีเผชิญกับการขาดทุนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2024 โดยข้อมูล อัตราเงินเฟ้อการค้าส่ง ของอินเดียมีกำหนดการณ์เปิดเผยในวันนี้