Investing.com - ดัชนีฟิวเจอร์สของตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวแบบทรงตัวในคืนวันพฤหัสบดี ขณะที่นักลงทุนยังคงพิจารณาการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อที่ยังคงสูงในสัปดาห์นี้ แม้ว่าการชะลอการเก็บภาษีการค้าของสหรัฐเพิ่มเติมจะช่วยบรรเทาความกังวลได้บางส่วนก็ตาม
หุ้นฟิวเจอร์สทรงตัวหลังตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดในแดนบวก โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ และความโล่งใจที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐไม่ได้ดำเนินการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ต่อคู่ค้าในทันที
ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงยังได้รับแรงหนุนจากคำกล่าวของทรัมป์ที่ระบุว่ารัฐบาลของเขากำลังเตรียมการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ส่งผลให้บรรยากาศโดยรวมยังคงถูกจำกัด นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวว่าเขายังมีแผนจะเรียกเก็บภาษีตอบโต้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
S&P 500 ฟิวเจอร์ส ทรงตัวที่ 6,134.50 จุด ขณะที่ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.1% มาเป็น 22,086.0 จุด ณ เวลา 06:17 น.(GMT+7) ส่วน ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส ทรงตัวที่ 44,827.0 จุด
ทรัมป์เปิดเผยแผนกำแพงภาษีตอบโต้
ในวันพฤหัสบดี ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหารที่กำหนดแผนการเรียกเก็บภาษีการค้าซึ่งจะเท่ากับหรือสูงกว่าภาษีที่คู่ค้าหลักของสหรัฐเรียกเก็บจากสินค้านำเข้าของสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ยังไม่ได้ดำเนินการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ในทันทีตามที่เคยขู่ไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งช่วยให้ตลาดวอลล์สตรีทมีความโล่งใจบ้าง
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้ในสัปดาห์นี้ ทรัมป์ได้เก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมในอัตรา 25% แล้วก็ตาม นอกจากนี้ เขายังส่งสัญญาณว่าจะมีการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ที่สูงขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แม้จะยังไม่ได้กำหนดกรอบเวลาที่แน่ชัดก็ตาม
วอลล์สตรีทได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร
ดัชนีหุ้นวอลล์สตรีทได้รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง แม้ว่าข้อมูลเงินเฟ้อ PPI ในเดือนมกราคมจะออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม ข้อมูล PPI แสดงให้เห็นถึงการชะลอตัวในบางส่วนของเงินเฟ้อที่เป็นปัจจัยสำคัญของ ดัชนีราคา PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐให้ความสำคัญมากที่สุด ซึ่งอาจส่งสัญญาณว่าอัตราเงินเฟ้อ PCE สำหรับเดือนมกราคมอาจออกมาต่ำกว่าที่คาด
หากอัตราเงินเฟ้อ PCE ลดลง มันก็อาจเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางสหรัฐมีพื้นที่ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม แม้ว่าประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ จะเตือนในสัปดาห์นี้ว่าธนาคารกลางอาจยังคงดำเนินนโยบายการเงินด้วยความระมัดระวังก็ตาม
ขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ในเดือนมกราคมก็ออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ยังคงพุ่งขึ้นในวันพฤหัสบดี ตามทิศทางของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลง โดย Nvidia (NASDAQ:NVDA) และ Apple (NASDAQ:AAPL) ปรับตัวขึ้น 3.2% และ 2% ตามลำดับ ขณะที่ Tesla (NASDAQ:TSLA) พุ่งขึ้นเกือบ 6% จากระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง
ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 1% มาปิดที่ 6,115.07 จุด ใกล้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ NASDAQ คอมโพสิต เพิ่มขึ้น 1.5% ปิดที่ 19,945.64 จุด และ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 0.8% มาเป็น 44,711.49 จุด