หุ้นเอเชียผันผวน หุ้นจีนพุ่งจากแนวโน้ม AI จับตาการตัดสินใจนโยบายของ RBI

เผยแพร่ 07/02/2568 10:53
© Reuters.

Investing.com - หุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในวันนี้ แต่หุ้นจีนยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากกระแสความเชื่อมั่นในปัญญาประดิษฐ์ แม้จะเผชิญภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดจับตาการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ซึ่งจะประกาศในวันนี้

หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐแทบไม่เปลี่ยนแปลงในตลาดเอเชีย หลังวอลล์สตรีทปิดแบบผสม

จับตาการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของ RBI

ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) มีกำหนดการณ์ตัดสินใจเกี่ยวกับ อัตราดอกเบี้ย และ อัตราส่วนเงินสำรอง ในวันนี้

นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า RBI จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 จุดพื้นฐาน (bps) สู่ระดับ 6.25% ซึ่งนับเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020

Nifty 50 ฟิวเจอร์ส ของอินเดียมีแนวโน้มเปิดตลาดในแดนบวก

ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดชี้ให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อของอินเดียลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ที่ 5.2% ในเดือนธันวาคม แต่ยังคงสูงกว่าเป้าหมายระยะกลางของ RBI ที่ 4%

ในแง่ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ อินเดียคาดว่าจะขยายตัวที่ 6.4% ในปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งชะลอตัวจาก 8.2% ในปีก่อนหน้า

ปัจจัยเหล่านี้ รวมถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับนโยบายของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้น

“เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีศุลกากรและอุปสงค์จากต่างประเทศ ธนาคารกลางในเอเชียจึงระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตภายในประเทศ ส่งผลให้มีการลดดอกเบี้ยเชิงป้องกัน” นักวิเคราะห์ของ ING ระบุในหมายเหตุล่าสุด

เมื่อไม่นานมานี้ สิงคโปร์ได้ผ่อนคลายนโยบายการเงินเป็นครั้งแรกในรอบเกือบห้าปี ขณะที่อินโดนีเซียได้ลดดอกเบี้ยอย่างไม่คาดคิด

หุ้นจีนปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดในภูมิภาค

แม้รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์จะประกาศเก็บภาษี 10% กับสินค้าจีน แต่ภาค AI ของจีนที่นำโดยบริษัทอย่าง DeepSeek ยังคงแสดงความแข็งแกร่ง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้น

ดัชนี เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนปรับขึ้น 0.8% ในวันนี้ ขณะที่ดัชนี CSI 300 พุ่งขึ้น 1% ด้านดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงก็ปรับเพิ่มขึ้น 0.9%

หุ้นของ Lenovo Group (HK:0992) ในตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้น 7.5% ขณะที่ Xiaomi Corp (OTC:XIACF) (HK:1810) ปรับตัวขึ้น 4.8%

หุ้นในภูมิภาคอื่น ๆ ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลกเกี่ยวกับนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้ผู้ลงทุนเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น

ดัชนี IDX คอมโพสิต ของอินโดนีเซียร่วงลง 1.7% ขณะที่ดัชนี SET ของไทยร่วงลง 1.9%

ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นลดลง 0.5% ขณะที่ดัชนี TOPIX ลดลง 0.4%

ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้อ่อนตัวลง 0.3% ขณะที่ดัชนี STI ของสิงคโปร์แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง

ในขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นออสเตรเลียถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ตลาดที่ปรับตัวขึ้น โดยดัชนี S&P/ASX 200 เพิ่มขึ้น 0.4%

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย