Investing.com - หุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในวันนี้ แต่หุ้นจีนยังคงขยายตัวต่อเนื่องจากกระแสความเชื่อมั่นในปัญญาประดิษฐ์ แม้จะเผชิญภาษีศุลกากรจากสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดจับตาการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ซึ่งจะประกาศในวันนี้
หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐแทบไม่เปลี่ยนแปลงในตลาดเอเชีย หลังวอลล์สตรีทปิดแบบผสม
จับตาการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของ RBI
ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) มีกำหนดการณ์ตัดสินใจเกี่ยวกับ อัตราดอกเบี้ย และ อัตราส่วนเงินสำรอง ในวันนี้
นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่า RBI จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 25 จุดพื้นฐาน (bps) สู่ระดับ 6.25% ซึ่งนับเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2020
Nifty 50 ฟิวเจอร์ส ของอินเดียมีแนวโน้มเปิดตลาดในแดนบวก
ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดชี้ให้เห็นว่า อัตราเงินเฟ้อของอินเดียลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ที่ 5.2% ในเดือนธันวาคม แต่ยังคงสูงกว่าเป้าหมายระยะกลางของ RBI ที่ 4%
ในแง่ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ อินเดียคาดว่าจะขยายตัวที่ 6.4% ในปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งชะลอตัวจาก 8.2% ในปีก่อนหน้า
ปัจจัยเหล่านี้ รวมถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับนโยบายของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้น
“เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีศุลกากรและอุปสงค์จากต่างประเทศ ธนาคารกลางในเอเชียจึงระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตภายในประเทศ ส่งผลให้มีการลดดอกเบี้ยเชิงป้องกัน” นักวิเคราะห์ของ ING ระบุในหมายเหตุล่าสุด
เมื่อไม่นานมานี้ สิงคโปร์ได้ผ่อนคลายนโยบายการเงินเป็นครั้งแรกในรอบเกือบห้าปี ขณะที่อินโดนีเซียได้ลดดอกเบี้ยอย่างไม่คาดคิด
หุ้นจีนปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดในภูมิภาค
แม้รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์จะประกาศเก็บภาษี 10% กับสินค้าจีน แต่ภาค AI ของจีนที่นำโดยบริษัทอย่าง DeepSeek ยังคงแสดงความแข็งแกร่ง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มขึ้น
ดัชนี เซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ของจีนปรับขึ้น 0.8% ในวันนี้ ขณะที่ดัชนี CSI 300 พุ่งขึ้น 1% ด้านดัชนี ฮั่งเส็ง ของฮ่องกงก็ปรับเพิ่มขึ้น 0.9%
หุ้นของ Lenovo Group (HK:0992) ในตลาดหุ้นฮ่องกงพุ่งขึ้น 7.5% ขณะที่ Xiaomi Corp (OTC:XIACF) (HK:1810) ปรับตัวขึ้น 4.8%
หุ้นในภูมิภาคอื่น ๆ ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลกเกี่ยวกับนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้ผู้ลงทุนเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
ดัชนี IDX คอมโพสิต ของอินโดนีเซียร่วงลง 1.7% ขณะที่ดัชนี SET ของไทยร่วงลง 1.9%
ดัชนี Nikkei 225 ของญี่ปุ่นลดลง 0.5% ขณะที่ดัชนี TOPIX ลดลง 0.4%
ดัชนี KOSPI ของเกาหลีใต้อ่อนตัวลง 0.3% ขณะที่ดัชนี STI ของสิงคโปร์แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ในขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นออสเตรเลียถือเป็นหนึ่งในไม่กี่ตลาดที่ปรับตัวขึ้น โดยดัชนี S&P/ASX 200 เพิ่มขึ้น 0.4%