Investing.com - หุ้นของ Nike (NYSE:NKE) ปรับตัวลดลงในวันพฤหัสบดี หลังการประชุมกับนักลงทุนที่มี CEO Elliott Hill และ CFO Matt Friend เป็นผู้นำเสนอ
การประชุมนี้จัดขึ้นในนิวยอร์กโดยมีเป้าหมายเพื่ออธิบายกลยุทธ์การฟื้นตัวของบริษัท ท่ามกลางความท้าทายที่ยังดำเนินอยู่ในตลาด โดยฝ่ายบริหารที่เน้นย้ำถึงการปรับสมดุลสินค้าคงคลัง การพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับช่องทางค้าส่ง
แม้ว่าบริษัทกำลังมุ่งเน้นแนวทางที่เน้นกีฬา (sport-centric approach) และลงทุนในการสร้างความต้องการสินค้า แต่นักวิเคราะห์ก็ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการในระยะสั้น
หุ้นของ Nike ปิดลดลง 3.8% มาเป็น 71.74 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี
Barclays (LON:BARC) คงอันดับ “Equal-Weight” พร้อมให้ราคาเป้าหมายที่ 70 ดอลลาร์ โดยระบุว่า แม้ Elliott Hill จะดำเนินมาตรการที่ถูกต้อง แต่การฟื้นตัวของ Nike นั้นยังคงเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาหลายปี
Barclays ชี้ว่า ปีงบประมาณ 2026 (FY26) มีแนวโน้มจะยังคงเป็นปีที่ยอดขายติดลบ ก่อนที่บริษัทจะกลับมาทำกำไรได้ในปีงบประมาณ 2027 (FY27)
โดยทั้งปัญหาด้านสินค้าคงคลัง การปรับโครงสร้างช่องทางค้าส่ง และการลงทุนใหม่ในนวัตกรรมผลิตภัณฑ์นั้นยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ Barclays เชื่อว่าการปรับวัฒนธรรมองค์กรและกลยุทธ์ของ Nike เป็นสิ่งจำเป็น แต่จะต้องใช้เวลาจึงจะสะท้อนออกมาในผลประกอบการ
Jefferies ย้ำอันดับ “Hold” และตั้งราคาเป้าหมายที่ 75 ดอลลาร์ โดยแสดงความกังขาเกี่ยวกับความเร็วของการฟื้นตัว
นักวิเคราะห์ของ Jefferies ระบุว่า แม้ Elliott Hill จะเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง แต่ Nike ยังคงเผชิญปัญหาเชิงโครงสร้างที่ลึกซึ้งกว่า เช่น การอ่อนแอของกลุ่มผลิตภัณฑ์ การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากแบรนด์อย่าง On และ HOKA และภาวะซบเซาในช่องทางค้าส่ง
Jefferies มองว่าภาวะชะลอตัวในอุตสาหกรรมโดยรวมและการลดราคาสินค้าอย่างต่อเนื่องจะจำกัดการขยายตัวของอัตรากำไร ทำให้หุ้นของ Nike ไม่น่าสนใจในระยะสั้น
RBC Capital Markets ให้เรตติ้ง “Sector Perform” พร้อมราคาเป้าหมายที่ 70 ดอลลาร์ โดยมีมุมมองที่ค่อนข้างระมัดระวัง
โบรกเกอร์ยอมรับว่า Nike กำลังพยายามปรับโครงสร้างธุรกิจ แต่ยังขาดหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับแรงผลักดันของแบรนด์และผลิตภัณฑ์
RBC คาดว่าช่องทางค้าส่งจะยังคงเผชิญความท้าทาย และแรงกดดันด้านอัตรากำไรจะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2025 แม้ว่าจะมองเห็นศักยภาพในระยะยาว แต่ยังคงมีท่าทีเป็นกลางต่อหุ้นของ Nike จนกว่าจะเห็นสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้น
แม้ว่านักวิเคราะห์จากหลายสำนักจะเห็นว่า Nike กำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง แต่ก็เตือนว่าความท้าทายในระยะสั้น เช่น สินค้าคงคลังที่มากเกินไป การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น และการชะลอตัวของตลาด จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันต่อผลประกอบการของบริษัทในอนาคตอันใกล้