รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 ประเด็นหลักที่น่าจับตาประจำวันนี้ (23 ก.ค.)

เผยแพร่ 23/07/2562 03:19
อัพเดท 23/07/2562 04:24
© Reuters.

Investing.com - ภาพรวมของสามประเด็นหลักที่น่าสนใจประจำวันนี้มีดังต่อไปนี้

1. สัปดาห์แห่งการประกาศผลประกอบการ

ในวันนี้มีการประกาศผลประกอบการของหุ้นบริษัทต่าง ๆ ในดัชนี Dow ถึงสามตัวด้วยกัน

อ้างอิงจากผลคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ Investing.com รวบรวมมา คาดว่า Coca-Cola (NYSE:KO) จะ ทำกำไร ได้ 62 เซนต์ต่อหุ้น และคาดว่าจะมีรายได้ 9.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ

คาดว่า Travelers (NYSE:TRV) จะมี กำไร เท่ากับ $2.29 ต่อหุ้น และมีรายได้ประมาณ 7.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วน United Technologies (NYSE:UTX) คาดว่าจะ ทำกำไร ได้ $2.05 ต่อหุ้น และมีรายได้ราว 1.95 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ

ก่อนเวลาเปิดตลาดในวันนี้ก็จะมีการประกาศผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ อาทิ Lockheed Martin (NYSE:LMT), Fifth Third Bancorp (NASDAQ:FITB) และ Harley-Davidson (NYSE:HOG)

และหลังเวลาปิดตลาด Visa (NYSE:V) ก็จะรายงานผลประกอบการ โดยนักวิเคราะห์คาดไว้ว่าบริษัทจะ ทำกำไร ได้ $1.32 ต่อหุ้น และคาดว่าจะมีรายได้ 5.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ

2. คาดว่ายอดขายบ้านมือสองจะเพิ่มขึ้น

สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติสหรัฐฯ จะรายงานยอดขายบ้านมือสองในเวลา 10.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (14:00 GMT).

อ้างอิงจากผลคาดการณ์โดยนักเศรษฐศาสตร์ที่ Investing.com รวบรวมมา คาดว่า ยอดขายบ้านมือสอง ประจำเดือนกรกฎาคมจะเพิ่มขึ้น คิดเป็นอัตราการเติบโตรายปีที่ 5.35 ล้านหลัง จากเมื่อเดือนมิถุนายนที่อัตรา 5.34 ล้านหลัง

เดือนที่แล้วยอดขายบ้านออกมาสูงกว่าคาดการณ์ เนื่องจากอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ลดลง ทำให้อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อลดลงตามและหนุนให้เกิดอุปสงค์ที่เพิ่มมากขึ้น

3. ตลาดน้ำมันเฝ้าสังเกตการณ์ทั้งปริมาณน้ำมันคงคลัง และสถานการณ์ในอิหร่าน

ตลาดน้ำมันในสัปดาห์นี้คาดว่าจะยังมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง เพราะขณะนี้ก็ยังไม่แน่ชัดว่าสหราชอาณาจักรจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับเหตุการณ์เข้ายึดเรือบรรทุกน้ำมันอังกฤษโดยอิหร่าน ซึ่งสหรัฐฯ เองก็ไม่มีทีท่าว่าจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือใด ๆ โดยตรงด้วย

อย่างไรก็ดี ในสัปดาห์นี้ปัจจัยพื้นฐานยังคงเป็นที่น่าจับตาอย่างใกล้ชิด

สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา (API) จะรายงาน ผลคาดการณ์ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ หลังเวลาตลาดปิดในวันนี้ โดยข้อมูลนี้มีส่วนช่วยชี้วัดข้อมูลอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จะออกมาในวันพรุ่งนี้ได้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว API รายงานว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังรายสัปดาห์น่าจะลดลงไปราว 1.4 ล้านบาร์เรล ต่างจากตัวเลขของสำนักงานสารสนเทศพลังงานสหรัฐฯ ที่รายงานว่าปริมาณน้ำมันดิบลดลงไป 3.1 ล้านบาร์เรล

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย