Investing.com - หุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงเย็นวันจันทร์ โดยวอลล์สตรีทมีแนวโน้มฟื้นตัวจากการขาดทุนล่าสุด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เลื่อนแผนการขึ้นภาษีการค้ากับแคนาดาและเม็กซิโก
หุ้นฟิวเจอร์สพุ่งขึ้นหลังจากตลาดวอลล์สตรีทปิดที่ระดับสูงขึ้นระหว่างวันเมื่อวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนต่างโล่งใจที่ทรัมป์ตกลงเลื่อนการขึ้นภาษีการค้า 25% กับแคนาดาและเม็กซิโกออกไป 30 วัน อย่างไรก็ตาม อัตราภาษี 10% สำหรับจีนยังคงมีกำหนดเริ่มต้นในวันนี้
นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนด้านการค้าภายใต้ทรัมป์ เนื่องจากเขายังคงแสดงเจตนาที่จะกำหนดภาษีการค้าเพิ่มเติม โดยเฉพาะภาษี 10% ที่ครอบคลุมสินค้านำเข้าทั้งหมด
S&P 500 ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.6% เป็น 6,058.25 จุด ขณะที่ Nasdaq 100 ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.8% มาเป็น 21,570.75 จุด ณ เวลา 06:11 น.(GMT+7) ส่วน ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.4% เป็น 44,760.0 จุด
ทรัมป์เลื่อนการขึ้นภาษีแคนาดาและเม็กซิโกออกไป 30 วัน
นายกรัฐมนตรีแคนาดา Justin Trudeau เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่าทรัมป์ตกลงเลื่อนแผนการขึ้นภาษีกับประเทศของเขาออกไป 30 วัน หลังจากการประชุมระหว่างทั้งสองฝ่าย
ประกาศดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ทรัมป์ระบุว่าการขึ้นภาษีกับเม็กซิโกจะถูกเลื่อนออกไป 30 วัน หลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์ที่ "เป็นมิตรอย่างมาก" กับประธานาธิบดีเม็กซิโก Claudia Sheinbaum
ทั้งสองประเทศตกลงตามข้อเรียกร้องของทรัมป์ในการควบคุมพรมแดนที่เข้มงวดขึ้น โดยภัยคุกคามด้านภาษีล่าสุดของทรัมป์มีสาเหตุหลักมาจากข้อกล่าวหาว่าการควบคุมพรมแดนที่หละหลวมในแคนาดาและเม็กซิโกเอื้อต่อการไหลเข้าของสารผิดกฎหมาย โดยเฉพาะเฟนทานิล และผู้อพยพผิดกฎหมายเข้าสู่สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ภาษี 10% ของทรัมป์ต่อจีนนั้นยังคงมีกำหนดเริ่มต้นในวันนี้ โดยปักกิ่งได้แสดงท่าทีคัดค้านอย่างมากและให้คำมั่นว่าจะตอบโต้
นักวิเคราะห์เตือนว่าภาษีของทรัมป์ ซึ่งจะถูกแบกรับโดยบริษัทนำเข้าของสหรัฐฯ อาจผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในช่วงเดือนข้างหน้า เงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูงอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐมีแรงจูงใจน้อยลงในการลดอัตราดอกเบี้ย
Austan Goolsbee ประธานธนาคารกลางสาขาชิคาโก เตือนเมื่อวันจันทร์ว่าความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของทรัมป์อาจทำให้แผนการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดล่าช้าออกไปอีก
ทรัมป์ยังคงส่งสัญญาณถึงความตั้งใจที่จะกำหนดภาษีที่สูงขึ้นกับจีน รวมถึงอาจมีการเรียกเก็บภาษี 10% กับสินค้านำเข้าทั้งหมดของสหรัฐฯ
วอลล์สตรีทปิดใกล้ระดับต่ำสุดของวัน จับตารายงานผลประกอบการ
หุ้นวอลล์สตรีทร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันจันทร์หลังจากทรัมป์ขู่เรียกเก็บภาษี แต่สามารถฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดของวันได้ หลังจากที่มีข่าวว่าการขึ้นภาษีถูกเลื่อนออกไป
หุ้นสหรัฐยังคงอยู่ในระดับที่ขาดทุนจากสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการร่วงลงอย่างต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และสัญญาณที่เพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อที่ยังคงสูง ซึ่งกระทบต่อความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง
ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.8% ปิดที่ 5,994.67 จุด ขณะที่ NASDAQ คอมโพสิต ลดลง 1.2% เป็น 19,391.96 จุด ส่วน ดาวโจนส์ ลดลง 0.3% ปิดที่ 44,422.31 จุด
ความสนใจของตลาดในสัปดาห์นี้จึงมุ่งไปที่ฤดูกาลรายงานผลประกอบการไตรมาสเดือนธันวาคม โดยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Alphabet Inc (NASDAQ:GOOGL) และ Amazon.com Inc (NASDAQ:AMZN) เตรียมรายงานผลประกอบการในวันนี้และวันพฤหัสบดีตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีรายงานจากบริษัทอื่น ๆ เช่น Advanced Micro Devices Inc (NASDAQ:AMD) PayPal Holdings Inc (NASDAQ:PYPL) Super Micro Computer Inc (NASDAQ:SMCI) Walt Disney Company (NYSE:DIS) และ Qualcomm Incorporated (NASDAQ:QCOM) ที่จะเปิดเผยผลประกอบการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
นอกเหนือจากผลประกอบการแล้ว ตลาดยังต้องจับตาข้อมูล การจ้างงานนอกภาคเกษตร ประจำเดือนมกราคม ซึ่งมีกำหนดการณ์จะประกาศในวันศุกร์ โดยข้อมูลดังกล่าวอาจมีผลต่อการคาดการณ์เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟด