ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้น หลังความกังวลต่อภาคธนาคารได้ผ่านพ้นไปแล้ว

© Reuters.

โดย Liz Moyer

Investing.com -- หุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นหลังความกังวลต่อภาคธนาคารได้ผ่านพ้นไปแล้ว และมองว่าจะปิดเดือนและไตรมาสด้วยข่าวดี

เมื่อเวลา 10:14 ET (14:14 GMT) ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 60 จุดหรือ 0.2% ขณะที่ S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.4% และ NASDAQ Composite เพิ่มขึ้น 0.5%

เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งวันในไตรมาสนี้ S&P และ Nasdaq มุ่งหน้าสู่การทำกำไรรายไตรมาส ในขณะที่ดาวโจนส์อาจปิดในแดนลบเล็กน้อย ความวุ่นวายในภาคการธนาคารส่งผลกระทบต่อหุ้นส่วนใหญ่ในเดือนมีนาคม แต่ความกลัวเหล่านั้นสงบลงแล้ว

ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ VIX อยู่ที่ประมาณ 19 หลังจากที่พุ่งขึ้นสูงกว่า 30 ในช่วงกลางเดือนเนื่องจากสิ่งที่เรียกว่ามาตรวัดความกลัวของ Wall Street ตอบสนองต่อความวุ่นวายต่อภาคธนาคาร

ความเห็นของผู้ค้าฟิวเจอร์สต่อ ความเคลื่อนไหวครั้งหน้า ของธนาคารกลางสหรัฐแบ่งออกเป็นสองส่วน ประมาณครึ่งหนึ่งกำลังเดิมพันว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในขณะที่อีกครึ่งหนึ่งคาดการณ์ว่าจะหยุดชั่วคราวในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนพฤษภาคม

การตัดสินใจของเฟดอาจได้รับอิทธิพลจากความวุ่นวายในภาคธนาคาร ซึ่งคาดว่าจะนำไปสู่การหดตัวของสินเชื่อ แต่ยังดูข้อมูลในตลาดแรงงานและ ตัวเลขเงินเฟ้อ ประกอบกับ ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก อยู่ที่ 198,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่คาดไว้เล็กน้อยและสูงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าเล็กน้อย แต่รายงานยังคงเป็นสัญญาณว่าตลาดแรงงานตึงตัว

ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ สำหรับไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 2.6% จากไตรมาสก่อน ตามข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่ในวันนี้ ลดลงเล็กน้อยจาก 2.7% ที่รายงานก่อนหน้านี้

หุ้นของ Intel Corporation (NASDAQ:INTC) เพิ่มขึ้น 2% หลังจากผู้ผลิตชิปประกาศกำหนดระยะเวลาสำหรับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ศูนย์ข้อมูลใหม่ หุ้น Evgo Inc (NASDAQ:EVGO) พุ่งขึ้น 21% หลังทำรายได้เกินความคาดหมายสำหรับรายได้ใน ไตรมาสที่สี่

น้ำมันผันผวน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 73.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ ทรงตัวที่ 77.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ราคาทองคำ ทรงตัวที่ 1,982 ดอลลาร์ต่อออนซ์