รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ตามภูมิภาค ขานรับ GDP สหรัฐสูงกว่าคาด

เผยแพร่ 27/01/2566 16:32
อัพเดท 27/01/2566 15:40
© Reuters.  (เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ตามภูมิภาค ขานรับ GDP สหรัฐสูงกว่าคาด

© Reuters. (เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ตามภูมิภาค ขานรับ GDP สหรัฐสูงกว่าคาด

InfoQuest - นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดรีบาวด์ สอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2565 ขยายตัว 2.9% สูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.8% ทำให้นักลงทุนมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจไม่ได้ถดถอยมากนัก

ขณะที่ SET เมื่อวานนี้ปิดตลาดยืนเหนือ 1,670 จุด ยังมีแรงซื้อเข้ามาหนุนตลาดอยู่ ทำให้ Sentiment ยังไม่เสีย

อย่างไรก็ตามการรีบาวด์อาจจะยังไปได้ไม่ไกล เนื่องจากนักลงทุนอยู่ระหว่างติดตามการเปิดเผยตัวเลข PCE ของสหรัฐคืนนี้ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

ให้แนวรับ 1,660-1,667 จุด และแนวต้าน 1,680 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (26 ม.ค.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,949.41 จุด เพิ่มขึ้น 205.57 จุด หรือ +0.61%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,060.43 จุด เพิ่มขึ้น 44.21 จุด หรือ +1.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,512.41 จุด เพิ่มขึ้น 199.06 จุด หรือ +1.76%

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 27,428.41 จุด เพิ่มขึ้น 65.66 จุด หรือ +0.24% ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็งเปิดที่ระดับ 22,614.92 จุด เพิ่มขึ้น 48.14 จุด หรือ +0.21% ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ (27 ม.ค.) เนื่องในเทศกาลตรุษจีน

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (26 ม.ค.66) 1,671.34 จุด ลดลง 10.77 จุด, -0.64% มูลค่าการซื้อขาย 72,405.67 ล้านบาท

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,276.03 ลบ.เมื่อวันที่ 26 ม.ค.66

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.(26 ม.ค.) เพิ่มขึ้น 86 เซนต์ หรือ 1.07% ปิดที่ 81.01 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (26 ม.ค.) อยู่ที่ 12.88 เหรียญ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 32.78 อ่อนค่าเล็กน้อย หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหนุนดอลลาร์แข็งค่า

- โตโยต้าได้คาดการณ์ยอดขายรถยนต์โดยรวมในปี 66 จะอยู่ที่ 9 แสนคัน หรือเพิ่มขึ้น 6% แยกเป็นรถยนต์นั่ง 301,500 คัน เพิ่มขึ้น 13.7% และรถเพื่อการพาณิชย์ 598,500 คัน เพิ่มขึ้น 2.4% โดยอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะคืนสู่ภาวะปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ที่ทำให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ พร้อมกับการเปิดประเทศเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ขณะที่ปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิต จะค่อยๆ คลี่คลายลงเช่นกัน

- "แบงก์รัฐ" ทยอยขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ ตั้งแต่เดือน ม.ค. 0.25% หลังกนง.ขึ้นต่อ "ธอส." ประเดิมมีผล 26 ม.ค. ยันไม่กระทบต่อเงินงวดในการชำระหนี้ ชี้เป็นการปรับขึ้นครั้งแรกรอบ 2 ปี 9 เดือน ออมสินเริ่ม 27 ม.ค. ส่วน ธกส.-เอ็กซิมแบงก์ 1 ก.พ.

- รฟท.รอที่ประชุม กบอ. เห็นชอบแก้สัญญาไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน ยันพร้อมส่งมอบพื้นที่ทันที 100% ภายใน มิ.ย.นี้ หลังปัจจุบันเร่งเคลียร์เวนคืนช่วงพญาไท รับโครงการดีเลย์มา 2 ปี เตรียมเร่งงานก่อสร้างแล้วเสร็จปี 69

*หุ้นเด่นวันนี้

- BH (ดาโอ) เป้าเชิงกลยุทธ์ 214.00 บาท BH เด่นสุดในกลุ่ม รพ. ที่เน้นผู้ป่วยต่างชาติหลังการเปิดประเทศ ด้านกำไรไตรมาส 4/65 ประเมินที่ 1.6 พัน ลบ. +161%YoY, +7%QoQ ลูกค้ากลุ่ม UAE-ซาอุ ฟื้นต่อเนื่อง ประเมิน BH เป็นหนึ่งในเป้าหมายของ Fund Flow ต่างชาติ หลังตลาดจบการปรับฐาน ตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาหุ้น BH ปรับฐานราว -8% เก็งการซื้อกลับ

DAOL ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ที่ 4.99 พัน ลบ. และ 5.27 พัน ลบ. +311%YoY, +6%YoY ตามลำดับ- BEM (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 11.10 บาท คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องตาม Traffic การเดินทางที่สูงขึ้นหลังสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 คลี่คลาย โดยช่วงเดือน ธ.ค. 65 ที่ผ่านมา ปริมาณจราจรของBEM* และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT ฟื้นตัวมาอยู่ที่ระดับ 1,128.49 พันเที่ยวต่อวัน(+6.99%YoY, +2.74%MoM) และ 351.00 พันเที่ยวต่อวัน(+72.06%YoY, -0.85%MoM) ใกล้เคียงระดับ Precovid-19 ที่ 1,230 พันเที่ยวต่อวัน และ 350-400 พันเที่ยวต่อวัน นอกจากนี้ BEM* ยังมีประเด็นบวกจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ทั้งนี้ตลาดคาด EPS ปี65 และ ปี66 ของ BEM* จะฟื้นตัวต่อเนื่องจากฐานต่ำในปี 64 ที่ 0.07 บาท/หุ้น มาอยู่ที่ 0.16 บาท/หุ้น, และ 0.23 บาท/หุ้น ตามลำดับ

- BE8 (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐาน 69.1 บาท ประเมินหุ้น Tech Consult คาดได้ Sentiment บวกตามหุ้น Tech สหรัฐเมื่อคืนและกระแส Virtual Bank , ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของ BE8 จากยอด backlog ที่แข็งแกร่งในปี 2565 และทิศทางกำไรที่ดีต่อเนื่องในงวดไตรมาส 4/65 คาดประกาศวันที่ 28 ก.พ.

กดอ่านข่าวต้นฉบับจาก InfoQuest

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย