ตามที่ระบุโดย Olli Rehn ผู้ว่าการธนาคารกลางฟินแลนด์ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนกันยายนเนื่องจากความท้าทายทางเศรษฐกิจที่กําลังดําเนินอยู่
Rehn สมาชิกของสภาปกครองของ ECB เน้นย้ําถึงความจําเป็นในการดําเนินการนโยบายการเงินที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่หอการค้ายุโรปอเมริกันในนิวยอร์กเมื่อวันจันทร์
การพิจารณานี้เกิดขึ้นหลังจากการตัดสินใจก่อนหน้านี้ของ ECB ในการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ซึ่งถือเป็นการพลิกกลับบางส่วนของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม ECB คงอัตราดอกเบี้ยไว้ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนกรกฎาคม และไม่ได้ให้คําแนะนําที่ชัดเจนเกี่ยวกับแผนการประชุมครั้งต่อไปที่กําหนดไว้ในวันที่ 12 กันยายน
ความคิดเห็นของ Rehn เป็นหนึ่งในข้อมูลเชิงลึกแรกๆ จากสภาปกครอง 26 คนของ ECB เกี่ยวกับทิศทางของนโยบายการเงินในอนาคต เขาเน้นย้ําว่าความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการเติบโตติดลบในเขตยูโรช่วยเสริมสร้างข้อโต้แย้งสําหรับการลดอัตราดอกเบี้ย โดยสมมติว่าแนวโน้มการลดอัตราเงินเฟ้อยังคงดําเนินต่อไป
ขณะนี้ผู้เข้าร่วมตลาดกําลังกําหนดราคาในความน่าจะเป็น 90% ของการลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 25 จุดพื้นฐานเป็น 3.5% ในเดือนกันยายน โดยคาดว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อยหนึ่งครั้งก่อนสิ้นปี
Rehn แสดงความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการผลิต ซึ่งไม่มีสัญญาณการปรับปรุงอย่างมีนัยสําคัญ เขาแนะนําว่าการชะลอตัวของการผลิตภาคอุตสาหกรรมอาจยืดเยื้อกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ในขณะที่ Rehn แสดงมุมมองที่วัดได้เกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ แต่เขายอมรับถึงความท้าทายในการบรรลุเป้าหมายของ ECB ที่การเติบโตของราคา 2% เขาตั้งข้อสังเกตว่าแม้ว่าจะมีความเสี่ยงต่อการเติบโตของราคา แต่ ECB ก็มีความคืบหน้าอย่างมากในความพยายาม
การประชุมที่กําลังจะมาถึงของ ECB และการตัดสินใจเชิงนโยบายที่อาจเกิดขึ้นกําลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในขณะที่ธนาคารกลางนําทางภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจที่ซับซ้อนของเขตยูโร
รอยเตอร์มีส่วนร่วมในบทความนี้บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน