โดย Noreen Burke
Investing.com -- ห้าประเด็นหลักที่คุณควรทราบก่อนเริ่มต้นสัปดาห์นี้มีดังต่อไปนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐพุ่งสูง
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ได้มียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายวันที่สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ใน 5 รัฐ อาทิ ฟลอริดาและอริโซนา ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทั้งหมดขณะนี้สูงขึ้นกว่า 2.5 ล้านรายแล้ว
การระบาดซ้ำถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และกดดันให้ตลาดเริ่มลดความคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
และหนึ่งในมาตรการของสภาซึ่งก็คือการแจกจ่ายเงินประกันสำหรับแรงงานว่างงานเป็นมูลค่าสัปดาห์ละ $600 ก็กำลังจะหมดอายุลงในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ด้วย
Michael Wilson หัวหน้านักวางแผนกลยุทธ์ตลาดหุ้นจาก Morgan Stanley ได้แสดงความคิดเห็นไว้ว่า “คงต้องมีการเปลี่ยนแปลงภาพรวมทางเศรษฐกิจอีกครั้ง" หากไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
- รายงานตลาดแรงงานเดือนมิ.ย. และดัชนีภาคการผลิตจาก ISM
นักเศรษฐศาสตร์ได้คาดการณ์ไว้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐในเดือนมิถุนายนจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 3 ล้านตำแหน่ง จากเดือนที่แล้วที่มีการจ้างงานสูงขึ้นเกินคาดถึง 2.5 ล้านตำแหน่ง แต่ถึงกระนั้นตัวเลขของทั้งสองเดือนก็ยังคงถือว่าอ่อนแอหลังจากเดือนมีนาคมและเมษายนได้มีการสูญเสียตำแหน่งงานในประเทศไปทั้งหมดเกือบ 22 ล้านตำแหน่ง
ส่วน ดัชนีภาคการผลิตจาก ISM ที่จะรายงานออกมาในวันพุธนี้คาดว่าจะเด้งกลับขึ้นมาอย่างฉับพลัน แต่แม้ว่าตัวเลขจะออกมาสูงกว่า 50 อีกครั้งก็น่าจะยังต่ำกว่าตัวเลขที่ออกมาในช่วงต้นปี
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จะมีกำหนดการรายงานในวันพรุ่งนี้ และ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ จะเผยแพร่ออกมาในวันพฤหัสบดีนี้ในเวลาเดียวกันกับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร
- สมาชิกเฟดให้คำกล่าว
ประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสตีเวน มนูชิน จะมีกำหนดการแถลงต่อหน้าคณะกรรมการบริการทางการเงินประจำสภาในวันพรุ่งนี้เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับการระบาด
และในวันพุธนี้เฟดจะเผยแพร่ รายงานการประชุม ประจำเดือนมิถุนายน แต่ก่อนหน้านี้ประธานเฟดจากนิวยอร์ก นายจอห์น วิลเลียมส์ จะให้คำกล่าวในวันพรุ่งนี้ร่วมกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ส่วนผู้ว่าการเฟด แลล แบร์นาร์ด จะมีกำหนดการให้คำกล่าวเกี่ยวกับกฎหมายดอดด์-แฟรงก์ในการอภิปรายออนไลน์ร่วมกับสถาบัน Brookings และมหาวิทยาลัยมิชิแกน
- ปมขัดแย้งทางการเมือง
สัปดาห์นี้ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนอาจปะทุขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากจีนจะมีกำหนดการผ่านกฎหมายว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติเพื่อปกครองฮ่องกงเร็ว ๆ นี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายไมค์ ปอมเปโอ ได้กล่าวไว้า่เมื่อวันศุกร์ว่าสหรัฐจะใช้ข้อจำกัดเกี่ยวกับการตรวจลงตราของเจ้าหน้าที่รัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกีดกันเสรีภาพของฮ่องกง
โดยเดือนที่แล้วประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ตอบโต้แผนการของจีนด้วยการเริ่มกระบวนการที่จะยกเลิกสถานะพิเศษของฮ่องกง ซึ่งสถานะนี้ทำให้ฮ่องกงยังคงเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลกมานับตั้งแต่สหราชอาณาจักรคืนฮ่องกงเมื่อปี 1997
- จับตาการให้คำกล่าวจากธนาคารกลางอังกฤษ
ตลาดจะรอจับตาการปรากฎตัวของผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ นายแอนดรูว์ เบย์ลีย์ และหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ นายแอนดรูว์ ฮัลเดน ในสัปดาห์นี้เพื่อดูว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงผลคาดการณ์ทิศทางนโยบายทางการเงินในอนาคตหรือไม่ หลังจากมีการประกาศลดการซื้อพันธบัตรรัฐบาล
นอกจากนี้ธนาคารกลางอังกฤษยังได้เพิ่มงบประมาณอีก 1 แสนล้านปอนด์ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นไปตามที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ แต่กลับน่าประหลาดใจที่ทางธนาคารกลางหวังว่าจะใช้งบประมาณดังกล่าวจนถึงสิ้นปีนี้
ผลการตัดสินใจของธนาคารกลางอังกฤษที่ชะลอการซื้อพันธบัตรรัฐบาลนั้นตามมาด้วยคำกล่าวของนายเบย์ลีย์ว่า เขาต้องการที่จะลดความตึงตัวของงบดุลมากกว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเปลี่ยนทิศทางจากยุคสมัยของนายคาร์นีย์ที่เคยกล่าวไว้าว่ากระบวนการดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นหากอัตราดอกเบี้ยยังไม่ถึง 2%
--เนื้อหาข่าวได้รับการสนับสนุนจากรอยเตอร์ส
กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้