Stephane Kasriel ผู้บริหารฝ่ายคริปโตเคอเรนซี และ Fintech แห่ง Meta ได้ออกมาประกาศแถลงการณ์เมื่อวันพุธที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่านมาระบุว่า ได้เริ่มทดลองใช้ Wallet ของ Meta ผ่าน WhatsApp เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเปิดให้บริการกับผู้ที่ใช้แอปพลิเคชันในประเทศสหรัฐอเมริกาเพียงบางรายเท่านั้น โดยผู้ใช้งานจะสามารถส่ง และ รับสกุลเงินดิจิทัลผ่าน WhatsApp ได้ในทันที และ ไม่เสียค่าธรรมเนียมใด ๆ
นอกจากนี้ Will Cathcart ผู้บริหารแอปพลิเคชัน WhatsApp ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Meta ก็ได้ออกมายืนยันข่าวผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขาระบุว่าผู้ใช้งานชาวอเมริกันบางรายสามารถส่ง และ รับเงินด้วย Novi ผ่านทาง WhatsApp ได้แล้ว
“ผู้ใช้งานสามารถใช้ WhatsApp ในการส่งไปยังคนสำคัญของคุณด้วย Novi ได้แล้ว ซึ่ง Wallet ตัวนี้จะเข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัย สามารถทำได้ในทันที และ ไม่มีค่าธรรมเนียมให้แก่ทุก ๆ คนอีกด้วย”
การทดลองใช้ Wallet ของ Meta ผ่าน WhatsApp ก็เพื่อสำรวจความชื่นชอบของผู้ใช้งาน
ผู้บริหาร Novi ระบุว่าหลังจากได้เปิดทดลองใช้ Wallet มาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคม นั้นได้ช่วย Meta สามารถทดสอบ และ เรียนรู้ว่าฟังก์ชั่น และ คุณลักษณะใดบ้างที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ใช้งาน เขากล่าวเสริมว่าการใช้ Novi จะไม่สร้างผลกระทบต่อความเป็นส่วนตัวในการเข้าใช้แอปพลิเคชันแต่อย่างใด เนื่องจาก WhatsApp ใช้เทคโนโลยี End-to-End Encryption (E2EE) หรือ การเข้ารหัสระหว่างคู่สนทนาสองคนเท่านั้น หากมีบุคคลที่ 3 ที่ต้องการดูข้อความ ทางระบบก็จะแสดงให้เห็นเพียงแค่รหัสเท่านั้น และจะไม่แสดงข้อความที่คู่สนทนาส่งหากัน
หน่วยงานบางแห่งไม่เห็นด้วยกับการทดลองของ Meta
ก่อนหน้านี้ Meta หรือ Facebook ชื่อในอดีตที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีได้เปิดตัวโครงการนำร่องสกุลเงินดิจิทัลร่วมกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตรายใหญ่อย่าง Coinbase (NASDAQ:COIN) และ บริษัทผู้ให้บริการ Stablecoin ชื่อดังอย่าง Paxos ในเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา โดยโครงการดังกล่าวได้เริ่มเปิดให้ใช้บริการ Pax Dollar (USDP) หรือ Stablecoin ที่ตรึงสกุลเงินสดดอลลาร์ของทาง Paxos ในประเทศสหรัฐอเมริกา และ ประเทศกัวเตมาลาเป็นที่แรก
Open Markets Institute องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรแห่งสหรัฐอเมริกาได้ดำเนินการส่งจดหมายหลายฉบับไปยังหน่วยงานราชการต่าง ๆ รวมไปถึงกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ โดยกล่าวหาว่า Meta อาจกำลังดำเนินการธุรกิจที่ผิดกฎหมายในการรับเงินฝากโดยปราศจากใบอนุญาตจากทางธนาคาร นอกจากนี้ทางองค์กรยังได้ระบุเพิ่มเติมว่า USDP นั้นเป็นเพียงหนึ่งในเหรียญ Stablecoin ที่มีขนาดเล็ก ไม่มีสภาพคล่อง และ การใช้งานที่น้อยกว่าเหรียญชั้นนำต่าง ๆ เช่น Tether (USDT) และ USD Coin (USDC)