ในขณะที่ตอนนี้ประเทศจีนกำลังทดสอบเงินหยวนดิจิทัล (e-CNY) หลังการผลักดันของรัฐบาลจีนในการนำหยวนดิจิทัลมาใช้ในการชำระเงิน ซึ่งดูเหมือนว่าประชากรที่เข้าใจในเรื่องดิจิทัลและจำนวนของสมาร์ทโฟนที่มหาศาลในจีนจะช่วยลดระยะเวลาการทดสอบหยวนดิจิทัลลงอย่างมหาศาล ความพยายามล่าสุดของประเทศจีนนั่นคือการใช้ e-CNY ในการชำระเงินสำหรับทางด่วนในจังหวัดทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑล Shaanxi ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะแลนด์มาร์คหนึ่งของจีน โดยเป็นจุดเชื่อมระหว่างเส้นทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับสองของโลกกับยุโรป แอฟริกา และเอเชีย หากพิจารณาตามความสำคัญทางภูมิศาสตร์ของประเทศ ทำให้มณฑล Shaanxi กลายเป็นเมืองนำร่องที่สองในการทดลองใช้หยวนดิจิทัลตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 โดยมีการจัดตั้งกระเป๋าดิจิทัลมากกว่า 1.1 ล้านใบตามรายงานของ Economic Information Daily Zhaosheng Jiang ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย Blockchain ณ กรุงปักกิ่งได้เผยว่า การทดสอบหยวนดิจิทัลอยู่ในขั้นตอนการนำร่องทดสอบจากเมืองสำคัญต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่านี่คือการเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการ Matteo Giovannini ผู้จัดการฝ่ายการเงินอาวุโสที่ Industrial and Commercial Bank of China ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ กล่าวว่าการพัฒนาหยวนดิจิทัลได้ผ่านขั้นตอนของการทดสอบอย่างแท้จริงแล้ว หลังจากการทดลองหลายรอบในเมืองใหญ่ ๆ อีกทั้งยังเชื่อว่าประเทศจีนผ่านช่วงทดสอบมาอย่างรวดเร็วจากปัจจัยในการพึ่งพาสมาร์ทโฟนจำนวนมาก, ประชากรที่เข้าใจดิจิทัล และนโยบายของรัฐบาลที่เอื้ออำนวย ซึ่งตอนนี้กำลังย้ายสู่การเปิดตัวอย่างในขั้นถัดไป e-CNY จะตอกย้ำบทบาทของธนาคาร การที่ชาวจีนคุ้นเคยกับการชำระเงินผ่านมือถืออาจเป็นประโยชน์ต่อการเปิดตัวหยวนดิจิทัลและจะทำให้ประเทศจีนเป็นผู้นำระดับโลกด้านการใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลและมือถือโดยคิดเป็น 72% ของการชำระเงินใน e-commerce ของประเทศในปี 2020 ในขณะที่ส่วนแบ่งในสหรัฐฯ อยู่ที่ 30% และของยุโรปอยู่ที่ 26% ตามรายงานล่าสุดของ Moody’s ที่อ้างถึงข้อมูลจาก WorldPay ทั้งนี้การที่หยวนดิจิทัลนั้นได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับบทบาทของธนาคารในการชำระเงินเนื่องจากจำนวนข้อมูลผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ Giovannini ยังคาดว่าหยวนดิจิทัลจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อระบบการเงินเมื่อธนาคารกลางสามารถดำเนินนโยบายการเงินที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นผ่านการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ และธนาคารพาณิชย์สามารถเห็นระดับความโปร่งใสที่สูงขึ้น ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำลง และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การฉ้อโกง ได้ ทำให้มีความรู้สึกปลอดภัยสำหรับคนที่ปกป้องเงินของพวกเขา การต่อสู้กันทางด้านเทคโนโลยี แม้ว่าการทดสอบที่ผิดพลาดนั้นจะทำให้เกิดผลกระทบระยะสั้นต่อบริษัทเทคโนโลยี แต่ความเสี่ยงด้านการแข่งขันอาจเพิ่มขึ้นในระยะยาว โดยหยวนดิจิทัลได้ออกแบบให้ทำงานควบคู่กับแอพพลิเคชันต่าง ๆ เช่น WeChat Pay ของ Tencent และ Alipay ในเครือของอาลีบาบา ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลของผู้ใช้งานระหว่างบริษัทเทคโนโลยีและกิจกรรมทางการเงินของสถาบันการชำระเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร Jiang กล่าวว่าผู้ให้บริการ e-payment ที่มีอยู่สามารถเลือกที่จะรวมหยวนดิจิทัลเข้ากับระบบของพวกเขา และเสนอทางเลือกการชำระเงินที่หลากหลายมากขึ้นแก่ผู้ใช้ อย่างไรก็ตามการที่อำนาจทางการตลาดของ WeChat Pay และ
กดอ่านข่าว จีนกำลังเร่งทดสอบ e-CNY คาดอาจได้เปิดตัวออกมาในเร็ว ๆ นี้ ต่อที่ Siam Blockchain