โดย Geoffrey Smith
Investing.com -- บทสรุป 5 ข้อเกี่ยวกับภาวะการลงทุนฝั่งสหรัฐ-ยุโรปในวันพุธที่ 29 กรกฎาคมมีดังต่อไปนี้
1. นายเพาเวลล์เตรียมส่งสัญญาณเตือนหลังการประชุมเฟด
คณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐจะสรุปการประชุมที่จัดขึ้นเป็นเวลาสองวันในเวลา 14.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1400 GMT) และประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ จะออกมาแถลงข่าวในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา
การประชุมครั้งนี้คาดว่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในนโยบายทางการเงิน แม้ว่าเฟดจะได้ออกมาประกาศเมื่อวานนี้ว่าจะขยายโครงการกู้ยืมออกไปอีกสามเดือนเพื่อบรรเทาผลกระทบจากยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากสมาชิกเฟดหลายท่านได้แสดงทัศนะที่ค่อนข้างเป็นไปในแง่ลบล่วงหน้าก่อนช่วงงดออกสื่อของเฟด ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่ผลคาดการณ์ของเฟดจะออกมาในทิศทางนโยบายเชิงผ่อนคลายมากขึ้น และจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น
ส่วนดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐก็อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 22 เดือน
2. การผูกขาดทางธุรกิจ
ตัวแทนจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐทั้งสี่บริษัทจะแถลงต่อหน้าคณะกรรมการต่อต้านการผูกขาดทางธุรกิจของสภาสหรัฐในวันนี้
คณะกรรมการจะฟังคำให้การจากทั้งนายมาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Facebook, นายเจฟฟ์ เบโซส ซีอีโอของ Amazon, นายทิม คุก ซีอีโอของ Apple (NASDAQ:AAPL) และนายซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของ Alphabet
มูลค่าของทั้งสี่บริษัทรวมกัน และรวมกับมูลค่าของ Microsoft ขณะนี้คิดเป็นมูลค่าตามราคาตลาดทั้งหมด 22% ของดัชนี S&P 500 ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงมากกว่าบริษัทใด ๆ ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
3. ตลาดหุ้นเตรียมปรับตัวขึ้นโดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของ AMD
ตลาดหุ้นสหรัฐเตรียมปรับตัวขึ้นล่วงหน้าก่อนสภาพตลาดที่อาจมีความผันผวน โดยขึ้นอยู่กับทิศทางของการแถลงของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่อหน้าสภาในวันนี้
เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1030 GMT) สัญญาซื้อขายดัชนี Dow ล่วงหน้าขยับขึ้น 25 จุดหรือ 0.1% สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้าดีดขึ้น 0.2% และสัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้าขยับขึ้น 0.5%
ในวันนี้จะมีการรายงานผลประกอบการก่อนเวลาตลาดเปิดวันนี้จากบริษัทต่าง ๆ อาทิ Boeing, Shopify และ General Motors และหลังเวลาตลาดปิดจะมีการรายงานของ PayPal และ Qualcomm
4. ธนาคารฝั่งยุโรปได้รับแรงกดดันอย่างหนักหลังจัดเงินสำรองเพื่อรับมือโควิด-19
ธนาคารยุโรปตามรอยธนาคารสหรัฐในไตรมาสที่สอง โดยธนาคารที่เน้นการลงทุนอย่าง Deutsche Bank และ Barclays ยังพอสามารถชดเชยเงินทุนที่สำรองไว้เป็นปริมาณมากสำหรับหนี้เสียได้
ขณะที่ธนาคารอื่น ๆ มีผลประกอบการที่ค่อนข้างย่ำแย่ โดย Santander ของสเปนได้คิดค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์เป็นมูลค่าถึง 1.4 หมื่นล้านเนื่องจากมูลค่าที่ลดลงของกิจการในเครือฝั่งสหราชอาณาจักร ส่วนเมื่อวานนี้ ING ก็ได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่เงินสดจากค่าความนิยมด้วย และธนาคารกลางยุโรปก็ได้ประกาศเมื่อวานนี้ว่าจะให้เวลาธนาคารจนถึงปี 2022 ในการกู้งบดุลจากพิษโควิด-19 และได้ "แนะนำ" ด้วยว่าไม่ให้ธนาคารจ่ายเงินปันผลในปีนี้
Unicredit ซึ่งมีแผนจ่ายเงินปันผลครั้งใหญ่ในช่วงต้นปีนี้ก็ได้ระบุว่าจะปฏิบัติตามคำแนะนำของธนาคารกลางยุโรปเช่นกัน
5. ราคาน้ำมันคงตัวหลังการรายงานตัวเลขจาก API
ราคาน้ำมันคงตัวหลังจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐรายสัปดาห์จากสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกา(API) ลดลงเกินคาด โดย API คาดไว้ว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังจะลดลง 6.83 ล้านบาร์เรล จากที่คาดไว้ว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล
ทว่าปริมาณน้ำมันเบนซินและสิ่งกลั่นคงคลังต่างก็สูงขึ้นเกินคาด แต่ทั้งนี้ข้อมูลอย่างเป็นทางการจะรายงานออกมาในเวลาเดิม 10:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1430 GMT)
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐดีดขึ้น 1.0% เท่ากับ $41.45 ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาเบรนท์บวกขึ้น 1.2% เท่ากับ $44.11 ต่อบาร์เรล