Investing.com – ผู้ลงทุนกลับมาลงสนามหลังจากหยุดช่วงสุดสัปดาห์วันที่ 4 กรกฎาคม และไม่พอใจนักเมื่อได้เห็นสถานการณ์ของหุ้น Apple กับ Boeing รวมถึงท่าทีของเฟดด้วย
ดัชนีสหรัฐฯ ต่างก็พากันเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นวันที่สอง หลังจากเมื่อวันพุธได้ทำสถิติราคาปิดสูงสุดในประวัติการณ์ ดัชนี S&P 500 ปรับลง 0.5% และดัชนี Dow ร่วงลง 0.4% อีกทั้ง Nasdaq Composite ก็ปิดลบ 0.8% ส่วนดัชนี Nasdaq 100 ที่ประกอบไปด้วยหุ้นเทคโนโลยีโดยส่วนใหญ่ก็ขยับลดลงไป 0.7%
ตัวการสำคัญของขาลงครั้งนี้คือ Apple (NASDAQ:AAPL) ที่ราคาดิ่งลงถึง 2% หลังถูกลดระดับการจัดอันดับหุ้น และ Boeing (NYSE:BA) ก็ขยับลง 1.3% เมื่อสายการบินซาอุดีอาระเบียยกเลิกคำสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น 737 Max ถึง 30 ลำ ฉะนั้นหุ้นทั้งสองตัวจึงส่งมอบขาลง 61 จุดจากทั้งหมด 116 จุดที่ Dow ปิดลบ
นอกจากนี้ตลาดก็ยังมีความกังวลว่าสรุปแล้วเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมช่วงวันที่ 30-31 กรกฎาคมจรืงหรือไม่ เพราะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเมื่อวันศุกร์เผยว่ามีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นเกินคาดถึง 224,000 ตำแหน่ง จึงยิ่งเพิ่มความหวาดหวั่นว่าเฟดอาจไม่ลดอัตราดอกเบี้ยเลยแม้แต่ครั้งเดียวก็เป็นได้ ทั้งนี้ เครื่องมือติดตามอัตราดอกเบี้ยเฟด ของ Investing.com ยังคงชี้ว่าเฟดจะต้องลดอัตราดอกเบี้ยจาก 2.25%-2.5% เหลือ 2%-2.25%
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้อัตราดอกเบี้ยก็ลดลงดังที่หวังไว้จริง ๆ แต่เป็นดอกเบี้ยของ พันธบัตรตั๋วเงินคลังแบบอายุสิบปี ที่ลดลงเป็น 2.034% จากเดิม 2.048%
เฟดเคยให้คำมั่นแล้วว่าพร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อหนุนการพื้นฟูทางเศรษฐกิจ และในวันพุธและพฤหัสบดีนี้ ประธานเฟด นายเจอโรม เพาเวลล์ จะให้คำแถลงต่อหน้าวุฒิสภาและคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎร และจะมีการตอบคำถามที่เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งที่ผ่านมาประธานาธิบดีทรัมป์ได้ตำหนิธนาคารกลางและเร่งเร้าให้ลดอัตราดอกเบี้ยมาตลอด