Investing.com - ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือนในตลาดเอเชียวันนี้เพราะเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงอย่างมาก หลังการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ทำให้ตลาดผ่อนคลายลงได้บ้าง
แต่การทำกำไรของราคาน้ำมันดิบก็ถูกจำกัดลง เนื่องจากปริมาณสินค้าคงคลังน้ำมันดิบและการผลิตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของสหรัฐฯ ผลักดันให้เกิดแนวคิดที่ว่าตลาดน้ำมันจะไม่ได้ตึงตัวอย่างที่คาดไว้ในตอนแรก อีกทั้งแนวดังกล่าวยังเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการขาดทุนของราคาน้ำมันดิบอย่างมากในสัปดาห์นี้
ความสนใจของตลาดขณะนี้จึงโฟกัสไปที่การเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส ซึ่งหากมีความคืบหน้าใด ๆ ก็จะทำให้ค่าพรีเมี่ยมความเสี่ยงต่ำลงสำหรับราคาน้ำมัน
เมื่อเวลา 20:14 ET (00:14 GMT) น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 0.3% เป็น 83.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส เพิ่มขึ้น 0.4% เป็น 78.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ดอลลาร์อ่อน หลังเฟดยังไม่มีแนวโน้มจะปรับขึ้นดอกเบี้ย
ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ เนื่องจากทำให้ราคาน้ำมันถูกลงสำหรับผู้ซื้อจากต่างประเทศ
ดอลลาร์หลุดจากระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อวันพุธ หลังจากที่ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางกล่าวว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปมีแนวโน้มที่จะเป็นการปรับลด แม้ว่าช่วงเวลาของการตัดสินใตดังกล่าวจะยังไม่แน่นอนก็ตาม
พาวเวลล์ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่าความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของเฟดได้หยุดชะงัก หลังจากรายงานที่ร้อนแรงเกินคาดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยแนวโน้มดังกล่าวคาดว่าจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปอีก
อัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานถือเป็นอุปสรรคต่อตลาดน้ำมันมากขึ้น เนื่องจากทำให้เกิดแนวคิดที่ว่าภาวะเศรษฐกิจจะแย่ลงภายใต้อัตราดอกเบี้ยที่สูง ซึ่งกดดันอุปสงค์น้ำมันดิบ
รายงาน PMI จากผู้นำเข้าชั้นนำอย่างจีนก็ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้เช่นกัน
สินค้าคงคลังคลังน้ำมันและการผลิตที่พุ่งสูงขึ้นของสหรัฐฯ
ข้อมูลอย่างเป็นทางการในวันพุธแสดงให้เห็นว่า สินค้าคงคลังน้ำมัน ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้อย่างมากถึง 7.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ของวันที่ 26 เมษายน ด้านน้ำมันเบนซินก็เพิ่มขึ้นเช่นกันแต่การเบิกใช้กลับมีเพียงเล็กน้อย
รายงานสินค้าคงคลังซึ่งก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าการผลิตของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่า 13 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมีนาคม กระตุ้นให้เกิดความเชื่อว่าตลาดน้ำมันจะไม่ได้ตึงตัวอย่างที่คิดไว้ในตอนแรก
ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นปัจจัยที่ไม่ดีต่อราคาน้ำมัน