Investing.com -- ห้าประเด็นที่คุณควรทราบเกี่ยวกับตลาดการเงินในวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์มีดังต่อไปนี้
1. สถานการณ์การระบาดของ Covid ชวนสับสน, สิงคโปร์ย้ำเตือนถึงสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ, จำนวนผู้ติดเชื้อในฮ่องกงแตะ 56 ราย
การระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 เริ่มมีความคืบหน้าหลากหลายทิศทางชวนให้ตลาดสับสน หลังจากทางการจีนได้ออกมาปรับตัวเลขจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการลงไป 100 รายโดยอ้างว่าเกิดการคำนวณซ้ำ แต่ถึงกระนั้นจำนวนผู้เสียชีวิตก็ยังคงพุ่งสูงขึ้นมากกว่า 100 รายเป็น 1,383 รายในวันนี้ ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันในจีนพุ่งสูงขึ้น 5,000 ราย รวมเป็นมากกว่า 64,000 ราย ลดลงจากยอดของเมื่อวานนี้ที่ทะยานขึ้นถึง 15,000 รายเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงวิธีการคำนวณจำนวนผู้ติดเชื้อ
และในวันนี้สำนักงานสาธารณสุขแห่งชาติจีนได้ออกมายืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดเชื้อ 1,716 รายและเจ้าหน้าที่เหล่านั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว 6 ราย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ทางการจีนออกมาเปิดเผยตัวเลขดังกล่าว
ล่าสุดฮ่องกงได้ยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อแล้ว 56 รายและได้เผยจำนวนนักท่องเที่ยวประจำเดือนมกราคมที่ลดลงไปเกือบ 50% อีกทั้ง HSBC Holdings (LON:HSBA) และ Royal Dutch Shell (LON:RDSa) ได้ตามรอยบริษัทอื่น ๆ ด้วยการให้พนักงานกลับภูมิลำเนาจากสิงคโปร์และฮ่องกงเนื่องด้วยการระบาดที่เกิดขึ้น และนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ก็ได้ออกมาประกาศว่าเศรษฐกิจสิงคโปร์อาจชะลอตัวลงเนื่องมาจากการระบาดของเชื้อไวรัส
2. สหรัฐฯ ตั้งข้อหา Huawei ฐานฉ้อโกง
สหรัฐฯ ได้ตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการสำหรับ Huawei ด้วยโทษฐานฉ้อโกงอันเนื่องมาจากการโจรกรรมทรัพย์สินทางปัญญาที่เกิดขึ้นเป็นเวลาหลายปี
มาตรการดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างไม่ลดละของสหรัฐฯ ในการกดดันจีนท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้า และเพื่อพยายามขัดขวางการมีตัวตนของ Huawei ในเครือข่าย 5G ทั่วโลก
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ตามมาเพียงไม่กี่วันหลังจากทางการสหรัฐฯ ได้ตั้งข้อหาเจ้าหน้าที่ทางทหารของจีน 4 รายฐานโจรกรรมด้วยการแฮคเครือข่ายของบริษัทเครดิตยักษ์ใหญ่ Equifax (NYSE:EFX)
3. ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบสี่เดือน
ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน ขณะที่ ค่าเงินยูโร กลับดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2017 ภายหลังจากตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจออกมาอ่อนแอ
อ้างอิงจากข้อมูลของ Eurostat ซึ่งได้มีการปรับตัวเลขแล้วระบุว่า การเติบโตของเศรษฐกิจยุโรปรายปี ขยายตัวขึ้น 0.9% ในไตรมาสที่สี่ และเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส GDP ขยายตัวขึ้น 0.1%
ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐฯ พุ่งขึ้นทำระดับสูงสุดเมื่อคืนนี้ที่ 99.04 ก่อนที่จะย่อตัวลงกลับมาอยู่ที่ 98.968 เมื่อเวลา 6:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (1130 GMT) โดยเมื่อเดือนที่แล้วดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น 2%
4. ตลาดหุ้นยังไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัส, ผลประกอบการของ Nvidia ออกมาดีเกินคาด
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เตรียมเปิดตัวในแดนบวกภายหลังจากขาลงในช่วงครึ่งหลังของเมื่อวานนี้ และยังไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น
เมื่อเวลา 6:40 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก สัญญาซื้อขายดัชนี Dow 30 ล่วงหน้า ปรับขึ้น 24 จุดหรือ 0.1% สัญญาซื้อขายดัชนี S&P 500 ล่วงหน้า ขยับขึ้น 0.1% และ สัญญาซื้อขายดัชนี Nasdaq 100 ล่วงหน้า ปรับขึ้น 0.3%
ดัชนี Nasdaq ได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัท Nvidia หลังเวลาตลาดปิดเมื่อวานนี้ที่ออกมาดีเกินคาด อันเนื่องมาจากอุปสงค์อันแข็งแกร่งของศูนย์ข้อมูลและชิพเกมมิง ส่วนยอดขายประจำไตรมาสที่สี่พุ่งขึ้นถึง 41% และผลกำไรต่อหุ้นก็สูงขึ้นเป็นสองเท่า แม้ว่าบริษัทจะเผยว่าได้มีการลดตัวเลขคาดการณ์ยอดขายจากจีนเหลือ 100 ล้านเหรียญสหรัฐในไตรมาสนี้ แต่ตัวเลขการคาดการณ์ยอดขายโดยรวมก็ยังคงสูงกว่าผลคาดการณ์อย่างเป็นเอกฉันท์จากนักวิเคราะห์
5. ยอดค้าปลีกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ
หลังจากปฏิทินเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ค่อนข้างเบาบาง ในวันนี้จะมีการรายงาน ยอดค้าปลีก ในเวลา 8:30 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก โดยนักวิเคราะห์คาดว่าทั้งยอดค้าปลีกโดยรวมและยอดค้าปลีกพื้นฐานจะออกมาสูงขึ้น 0.3%
การผลิตภาคอุตสาหกรรม และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนมกราคมจะมีกำหนดการรายงานในเวลา 9:15 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก ส่วน ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค จากมหาวิทยาลัยมิชิแกนจะมีกำหนดการรายงานในเวลา 10.00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก