Investing.com - ราคาน้ำมันทรงตัวในตลาดเอเชียวันนี้ หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา โดยขณะนี้นักลงทุนต่างกำลังมองหาสัญญาณเพิ่มเติมจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการประชุมทางการเมืองครั้งสำคัญในจีน
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในวันจันทร์หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) ตัดสินใจเลื่อนแผนการเพิ่มการผลิตในปีนี้ออกไป ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมุมมองของตลาดที่อาจตึงตัวมากขึ้น
แม้จะมีการปรับตัวขึ้นในช่วงนี้ แต่ราคาน้ำมันก็ยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบเกือบสามปีที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปี เนื่องจากตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับความต้องการที่ชะลอตัว โดยเฉพาะจากประเทศผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลกอย่างจีน
ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางยังให้การสนับสนุนราคาน้ำมันได้เพียงเล็กน้อย แม้ว่าจะมีรายงานว่าอิหร่านเตรียมยิงขีปนาวุธใส่อิสราเอล ในขณะที่อิสราเอลยังคงดำเนินการโจมตีต่อฮามาสและเฮซบอลเลาะห์ต่อไป
น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ที่จะครบกำหนดในเดือนมกราคมลดลง 0.2% เป็น 74.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ น้ำมันดิบ WTI ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.2% เป็น 70.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 09:45 น. (GMT+7)
จับตาการประชุม NPC ของจีนหาสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
คณะกรรมการประจำสภาประชาชนแห่งชาติของจีน (NPC) ซึ่งเป็นองค์กรการเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศ ได้เริ่มการประชุมระยะเวลาสี่วัตั้งแต่วันจันทร์
NPC คาดว่าจะอนุมัติการใช้จ่ายทางการคลังเพิ่มเติมของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ปักกิ่งได้แถลงถึงมาตรการทางการคลังหลายรายการที่มีเป้าหมายในการสนับสนุนการเติบโต
อย่างไรก็ตาม จีนนั้นยังไม่ได้ให้สัญญาณเกี่ยวกับขนาดหรือขอบเขตของมาตรการที่วางแผนไว้ เนื่องจากมีเพียง NPC เท่านั้นที่สามารถอนุมัติการใช้จ่ายทางการคลังที่เพิ่มขึ้นได้ โดยรายงานล่าสุดระบุว่าประเทศอาจอนุมัติหนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
สัญญาณที่ชัดเจนใด ๆ ของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากจีนมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนตลาดน้ำมัน เนื่องจากประเทศจีนเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก ความกังวลเกี่ยวกับความต้องการที่ชะลอตัวในจีนเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาน้ำมัน
การเลือกตั้งสหรัฐฯ และการประชุมเฟดใกล้เข้ามา
ตลาดยังรอคอยสัญญาณเพิ่มเติมจากสหรัฐฯ เนื่องจากประเทศกำลังมุ่งหน้าไปสู่การเลือกตั้งประธานาธิบดีที่เข้มข้นในวันนี้ ผลสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่า โดนัลด์ ทรัมป์ และ กมลา แฮร์ริส กำลังมีคะแนนที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งอาจทำให้ผลลัพธ์ยังคงไม่แน่นอน
หลังการเลือกตั้ง ความสนใจในสัปดาห์นี้จะยังอยู่ที่การประชุมของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงที่ 25 จุดพื้นฐาน
การเลือกตั้งและการประชุมเฟดจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ให้สัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความต้องการมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงในช่วงฤดูหนาว