เมื่อเริ่มปี 2023 Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่น ๆ ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงที่ร้อนแรง เนื่องจากพวกมันได้รับความสนใจอย่างมากเกี่ยวกับผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นรวมถึงพลังงานที่พวกมันต้องใช้และคาร์บอนไดออกไซต์ที่พวกมันปล่อยออกมา Bruce Schneie ศาสตราจารย์ที่ Harvard Kennedy School กล่าวถึงการลดการปล่อยคาร์บอนในการขุดเหรียญคริปโตผ่านการเก็บภาษีไว้ในบล็อกโพสต์เมื่อวันที่ 4 มกราคม โดยเขาแนะนำว่าจำเป็นต้องบังคับให้ผู้ซื้อจ่ายค่าเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมผ่านการเสียภาษี “เพื่อผลักดันให้เหรียญคริปโตที่ก่อให้เกิดมลภาวะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เราจำเป็นต้องบังคับให้ผู้ซื้อเหรียญจ่ายค่าภาษีเพื่อชดเชยความเสียหายที่เกิดต่อสิ่งแวดล้อม” เขาระบุว่าแม้ว่าเหรียญคริปโตบางตัวจะไม่ปล่อยคาร์บอนออกมามาก นักแต่ในความเป็นจริงแล้วเหรียญบางตัวก็มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับใกล้เคียงหรือเกือบเท่ากับศูนย์ มากไปกว่านั้นเขาเน้นย้ำว่าเหรียญคริปโตโดยรวมนั้นทำให้เกิดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ประมาณ 0.3% ของทั้งโลก “นั่นอาจฟังดูเหมือนไม่มากนักแต่มันมากกว่าการปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ของสวิตเซอร์แลนด์, โครเอเชีย และนอร์เวย์รวมกัน” เขาเน้น เวลาที่เหมาะเจาะในการลดคาร์บอนในพื้นที่ คริปโต เนื่องจากตลาดคริปโตกำลังอยู่ในช่วงปรับตัวลงและเว็บเทรด FTX เข้าสู่กระบวนการยื่นล้มละลาย Schneier เชื่อว่าทางการจะสืบสวนตลาดคริปโตเข้มงวดมากกว่าที่เคยเป็นมา ดังนั้นจึงเป็นโอกาสที่ดีในการควบคุมความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม นักถอดรหัสชาวอเมริกันระบุว่าการที่ Ethereum เปลี่ยนจาก Proof-of-Work (PoW) ไปเป็น Proof-of-Stake (PoS) ในปี 2022 ซึ่งส่งผลให้การใช้พลังงานของเครือข่ายลดลงมากกว่า 99.9% ในชั่วข้ามคืน อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่า Bitcoin และคริปโตตัวอื่น ๆ อาจจะไม่เลือกเดินเส้นทางนี้ “เว้นแต่จะถูกบังคับเนื่องจาก Proof-of-Work ให้ผลกำไรมหาศาลแก่นักขุดและพวกเขาเป็นผู้ที่มีอำนาจในระบบ” Schneier ระบุว่าการเรียกเก็บภาษีแทนการแบนในทันทีจะช่วยตัดประเด็นถกเถียงในเรื่องการแบนการทำเหมืองจนทำให้นักขุดย้ายไปยังประเทศอื่น
กดอ่านข่าว ศาสตราจารย์ประจำ Harvard Kennedy School เสนอให้เก็บภาษี crypto เนื่องจากการสร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม ต่อที่ Siam Blockchain