Investing.com - สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวแบบทรงตัวถึงต่ำลงในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนประเมินผลกระทบจากความโล่งใจเกี่ยวกับภาษีการค้าของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่แข็งแกร่งก็ยังคงกดดันสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค
ดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่ารายสัปดาห์ เนื่องจากตลาดปรับตัวลดลงแม้มีรายงานเงินเฟ้อที่แข็งแกร่งในเดือนมกราคม หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ดำเนินมาตรการภาษีตอบโต้กับประเทศคู่ค้าในทันทีอย่างที่เคยกังวลกันก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นต่อตลาดเอเชียยังคงเปราะบาง หลังจากทรัมป์ได้ประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมในสัปดาห์นี้ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อหลายประเทศในเอเชีย
เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในตอนแรกจากการประกาศขึ้นภาษีสินค้าโภคภัณฑ์ แต่ก็กลับอ่อนค่าลงหลังจากทรัมป์ส่งสัญญาณว่ามาตรการภาษีตอบโต้ยังต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์ หรืออาจนานกว่านั้น
เงินดอลลาร์เตรียมขาดทุนรายสัปดาห์จากเรื่องภาษีและสัญญาณเงินเฟ้อ
ดัชนีดอลลาร์ และ ดัชนีดอลลาร์ฟิวเจอร์ส แทบไม่เปลี่ยนแปลงในจลาดเอเชียวันนี้ หลังร่วงลงอย่างหนักในช่วงสองวันที่ผ่านมา โดยมีแนวโน้มลดลงประมาณ 0.9% ในสัปดาห์นี้
การอ่อนค่าของดอลลาร์เกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ลงนามในคำสั่งบริหารเพื่อพิจารณาการใช้มาตรการภาษีตอบโต้กับประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม มาตรการภาษีดังกล่าวคาดว่าจะเริ่มมีผลในเดือนเมษายน ทำให้หลายประเทศยังมีเวลาต่อรองกับทรัมป์
ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากสัญญาณเงินเฟ้อที่หลากหลาย แม้ว่าทั้งข้อมูลดัชนี PPI และ CPI ในเดือนมกราคมจะออกมาสูงกว่าที่คาด แต่บางองค์ประกอบของทั้งสองดัชนี ซึ่งใช้ในการวัดตัวเลข ดัชนีราคา PCE กลับอ่อนตัวลงเล็กน้อย
แนวโน้มดังกล่าวกระตุ้นความหวังว่าเงินเฟ้อ PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐให้ความสำคัญ อาจชะลอลงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เฟดพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ก็ปรับตัวลงจากปัจจัยนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ได้ส่งสัญญาณในสัปดาห์นี้ว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงสูง และนโยบายทางเศรษฐกิจของทรัมป์ที่อาจกระตุ้นเงินเฟ้อ จะทำให้เฟดยังคงระมัดระวังต่อแนวทางการลดดอกเบี้ยในอนาคต
สกุลเงินเอเชียอ่อนค่าจากความกังวลด้านภาษีและเงินเฟ้อ
แม้ว่าการเลื่อนเวลาบังคับใช้ภาษีของสหรัฐจะช่วยลดแรงกดดันได้บางส่วน แต่สกุลเงินเอเชียยังได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากที่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนที่ 10% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เงินหยวนของจีนแทบไม่ขยับในวันนี้ แต่คู่เงิน USDCNY ยังคงอ่อนค่าลงจากระดับ 7.3 หยวนต่อดอลลาร์
เงินเยนของญี่ปุ่นทรงตัว โดยคู่เงิน USDJPY ปรับตัวลงอย่างมากในช่วงสองวันที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
ดอลลาร์สิงคโปร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยคู่เงิน USDSGD ขยับขึ้น 0.1% แม้ว่าข้อมูล GDP ของสิงคโปร์จะแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจขยายตัวเกินคาดในไตรมาสที่สี่
วอนเกาหลีใต้ปรับตัวอ่อนค่าลง โดยคู่เงิน USDKRW เพิ่มขึ้น 0.2% ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยคู่เงิน AUDUSD แข็งค่าขึ้น แม้ตลาดจะกำลังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐานในการประชุมสัปดาห์หน้า
รูปีอินเดียอ่อนค่าลง โดยคู่เงิน USDINR ปรับตัวขึ้น 0.2% หลังจากที่ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) เข้าแทรกแซงในตลาดเพื่อช่วยชะลอการอ่อนค่าของสกุลเงิน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นต่อตลาดอินเดียก็ยังคงไม่แน่นอน หลังจากการประชุมระหว่างทรัมป์และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี
แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะหารือเกี่ยวกับการเพิ่มความร่วมมือทางการค้า เศรษฐกิจ และการป้องกันประเทศระหว่างสหรัฐและอินเดีย แต่ทรัมป์ก็ยังคงวิพากษ์วิจารณ์อัตราภาษีนำเข้าที่สูงของอินเดีย ซึ่งอาจนำไปสู่มาตรการภาษีตอบโต้จากสหรัฐฯ ต่ออินเดียในอนาคต