Investing.com - เงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวแบบทรงตัวในวันนี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าโลหะ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองสกุลเงินปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ
ณ เวลา 15:50 น.(GMT+7) ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งวัดค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักอื่น ๆ อีก 6 สกุล ทรงตัวที่ระดับ 108.200
เงินดอลลาร์ยังมีแรงหนุน
เมื่อวันจันทร์ช่วงค่ำ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งพิเศษกำหนดภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมที่ 25% และยังส่งสัญญาณว่าอาจปรับขึ้นภาษีโลหะเพิ่มเติม พร้อมทั้งเตรียมออกมาตรการภาษีตอบโต้กับประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ
"ดัชนีดอลลาร์ (DXY) ทรงตัวเหนือระดับ 108.00 เนื่องจากตลาดยังคงจับตาภัยคุกคามจากภาษีการค้า" นักวิเคราะห์จาก ING ระบุในบันทึกการวิเคราะห์ "ภาษีตอบโต้อาจถูกนำมาใช้ได้ทุกเมื่อ และตลาดยังไม่แน่ใจว่ามาตรการนี้จะจำกัดเฉพาะบางอุตสาหกรรมหลัก เช่น ยานยนต์ ยา หรือเซมิคอนดักเตอร์ หรือจะถูกนำมาใช้ในวงกว้างมากขึ้น"
นโยบายของทรัมป์ รวมถึงการเก็บภาษีที่สูงขึ้น ถูกมองว่าอาจเป็นปัจจัยเร่งให้เงินเฟ้อในสหรัฐฯ สูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงินต่อไปอีกสักระยะ ส่งผลให้เงินดอลลาร์ได้รับแรงหนุน
ด้วยเหตุนี้ ตลาดจึงต้องจับตาการประกาศข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ สำหรับเดือนมกราคมในวันพุธ เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ก่อนหน้านี้ นักลงทุนยังต้องให้ความสนใจกับคำให้การของ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดต่อสภาคองเกรสในอีกสองวันข้างหน้า ซึ่งเขาน่าจะถูกซักถามเกี่ยวกับมุมมองของเขาต่อเงินเฟ้อและนโยบายภาษีของทรัมป์
ท่าที dovish ของ BOE กดดันเงินปอนด์
ในยุโรป คู่เงิน EUR/USD แทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ 1.0308 ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางความกังวลว่าภาษีของทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของสหภาพยุโรป ซึ่งกำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซาอยู่แล้ว
"ยุโรปกำลังเตรียมรับมือกับความเป็นไปได้ที่ภาษีจะถูกนำมาใช้กับอุตสาหกรรมอื่น เช่น ยานยนต์" ING ระบุ "ไม่มีเหตุผลมากพอที่สหภาพยุโรปทั้งหมดจะถูกเก็บภาษีตอบโต้ เนื่องจากระบบภาษีของ EU ค่อนข้างต่ำ แต่เป็นไปได้ที่นักการเมืองยุโรปจะกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับภาษีที่อาจถูกกำหนดเพิ่มเติมในเดือนเมษายน เมื่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานเหตุผลว่าทำไมสหรัฐจึงมีการขาดดุลการค้าสูง"
คู่เงิน GBP/USD ลดลง 0.2% มาเป็น 1.2349 เนื่องจากนักลงทุนเริ่มประเมินถึงแนวโน้มที่ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) อาจมีท่าทีผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ Catherine Mann หนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงินของ BOE ซึ่งเคยถูกมองว่าเป็นฝ่ายสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย กลับโหวตให้มีการลดดอกเบี้ยลง 50 จุดพื้นฐานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ในบทสัมภาษณ์กับ Financial Times ที่เผยแพร่ในวันนี้ Mann ระบุว่าธุรกิจต่าง ๆ จะประสบปัญหาในการปรับขึ้นราคาในปีนี้ เนื่องจากผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการตกงานและกำลังซื้อลดลง
Mann มีกำหนดการณ์ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในวันนี้ และ ING ระบุว่า "หากเธอให้ความเห็นในแนวทางเดียวกัน มันก็อาจทำให้ตลาดมั่นใจมากขึ้นว่า BOE จะปรับลดดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีนี้ โดยปัจจุบันตลาดคาดการณ์ไว้เพียง 66 จุดพื้นฐานเท่านั้น"
เงินเยนได้แรงหนุนจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ย
ในเอเชีย คู่เงิน USD/JPY ขยับขึ้นเล็กน้อยเป็น 152.06 ในเซสชั่นที่เบาบาง เนื่องจากญี่ปุ่นอยู่ในวันหยุด แต่เงินเยนยังคงแข็งค่าใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองเดือน
เงินเยนได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
ขณะที่ คู่เงิน USD/CNY ทรงตัวที่ 7.3053 โดยเงินหยวนได้รับแรงหนุนจากมาตรการพยุงค่าเงินของรัฐบาลจีน หลังจากเผชิญแรงกดดันจากภาษีของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอซึ่งเผยแพร่ในช่วงสุดสัปดาห์ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันสกุลเงินจีนเช่นกัน